(日本語) おもてなしサービス研修(2024年4月)|J-CLINIC

 

J-CLINCで受診をご検討の方はこちらをご覧ください。

初診に関するよくある質問|J-CLINIC理学療法科

https://jclinicth.com/faqac/กิจกรรมฝึกอบรมพนักงานเจ สหคลินิก เมื่อวันที่ 18 กันยายน ในหัวข้อเรื่อง “OMOTENASHI SERVICE TRAINING” ครั้งที่ 2 ประจำปี 2023

 

挨拶の姿勢の指導を受けるスタッフたち

診察券を患者様に渡す時の練習をするスタッフ

 

おもてなしサービスの基本について説明する講師スタッフ

โดยในครั้งนี้เราให้ความสำคัญกับคำถาม 4 ข้อ ดังนี้

 

1.ทำไม J-CLINIC ถึงเรียนรู้เกี่ยวกับการบริการแบบญี่ปุ่น?

  • J clinic เป็นบริษัทญี่ปุ่น ดังนั้นเราจึงต้องการให้ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกที่มาที่คลินิก สัมผัสประสบการณ์การบริการแบบญี่ปุ่น(Omotenashi)

  • เนื่องจากร่างกายและจิตใจมีความสัมพันธ์กัน นอกจากเราจะ “บรรเทาความเจ็บปวดทางกายของผู้ป่วยด้วยการรักษาที่ดี”แล้ว เรายังอยากทำให้ใจของคนไข้ก็รู้สึกดีด้วย โดยผ่านการสื่อสารและการบริการที่ดีและน่าเชื่อถือ

 

 

 

2.Omotenashi สำหรับ เจ-คลินิก เป็นอย่างไร? คืออะไร?

คือ การให้บริการแบบญี่ปุ่นกับทุกคนที่มาที่คลินิก เน้นการให้บริการจากใจ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน

มีคำทักทาย การสื่อสาร และการปฏิบัติ ที่ทำให้คนไข้รู้สึกถึงการต้อนรับอย่างจริงใจ

H&Gの講師の先生がプレゼンしている

3.อะไรคือความยากในการฝึกการต้อนรับ? ทำไมเราถึงทำปีละ 2 ครั้ง?

  • เราไม่มีคำตอบที่ถูกต้องตายตัว คำตอบอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและสถานการณ์ ในการเรียนรู้ผ่านการอภิปรายร่วมกัน ทำให้ได้ทบทวนว่าสิ่งที่เข้าใจและปฏิบัติอยู่นั้นถูกต้องหรือไม่ นอกจากนี้ การรับฟังและแชร์ความคิดเห็นของผู้ร่วมงาน ยังช่วยเพิ่มแนวทางของคำตอบที่นำไปใช้ได้ในสถานการณ์จริง

  • การมี ” Sense ” เป็นสิ่งสำคัญในการเข้าใจความรู้สึกและความคาดหวังของคนไข้

 

4. เราจะฝึกฝน sense ได้อย่างไร?

  • จินตนาการความรู้สึกและความคาดหวังของอีกฝ่ายจากข้อมูลที่ได้รับผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5

  • วิเคราะห์ว่าสิ่งที่เข้าใจนั้นถูกต้องหรือไม่โดยดูจากปฏิกิริยาการตอบสนองของอีกฝ่าย

  • ใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมาในการคาดการณ์ / วิเคราะห์

 

หากทำต่อเนื่องจนเป็นนิสัย เกิดการสะสมประสบการณ์“ความรู้สึกสัญชาตญาณ” หรือ `6 senses ” ของทุกคนจะเริ่มทำงาน

การให้บริการแบบญี่ปุ่นไม่ใช่ว่าปฏิบัติตามคู่มือแล้วจะสามารถทำได้ง่ายๆ แต่สิ่งสำคัญ คือ จำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนซ้ำๆจนเป็นนิสัย

 

5. สิ่งที่ J-CLINIC อยากจะทำอะไรให้กับสังคม

วิสัยทัศน์ของเรา คือ : ถ้ามีอาการบาดเจ็บก็จะคิดถึง J-clinic เป็นอันดับแรกในประเทศไทย

​ดังนั้น ”หน้าที่ของเรา ก็คือ ทำให้คนไข้ทุกคนที่มารักษามีความสุข”

 

ในฐานะคลินิกญี่ปุ่นที่มีคนไข้จากทั่วโลกมารับการรักษา เราต้องการให้การบริการแบบญี่ปุ่น ทำให้คนไข้ทำให้รู้สึกถึง wow! อย่างไรก็ตาม ความประทับใจแบบ WOW! ไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้คนไข้รู้สึกได้ง่ายๆ

 

การฝึกเทคนิคการรักษาและการบริการ ขั้นพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง จะทำให้คนไข้ได้รับPositive feeling และความประทับใจแบบ WOW!

 

“สุดท้าย J-CLINIC อยากจะเป็นบุคคลและเป็นองค์กรที่มีอิทธิพลที่ดีต่อคนสังคมและรอบข้างได้”

ミッションとリーダーの集合写真

 

ขอขอบคุณ H&G Thailand ที่สนับสนุนการฝึกอบรมพนักงานของเราอีกครั้ง

当社の研修企画スタッフとH&G様の講師の方々

おもてなしサービストレーニングの参加者と講師の方々との集合写真

(日本語) スマホを酷使する人の首こり、眼精疲労改善に効果あり!後頭下筋群の治療を勉強する|J-CLINIC理学療法科

Sorry, this entry is only available in 日本語.

(日本語) 凍結肩の拘縮期における治療の考え方と可動域改善のテクニックを勉強する|J-CLINIC理学療法科

Sorry, this entry is only available in 日本語.

(日本語) 腰痛の原因となる腸腰筋の緊張を緩める手技療法を練習する|J-CLINIC理学療法科

Sorry, this entry is only available in 日本語.

(日本語) 五十肩と腰痛の整形外科的テスト、問診、治療法を勉強する|J-CLINIC 理学療法科・鍼灸漢方科

Sorry, this entry is only available in 日本語.

(日本語) 上位交差性症候群、肩こり、頭痛、手の痺れを治療する手技治療|J-CLINIC理学療法科

Sorry, this entry is only available in 日本語.

รักษาอาการปวดบริเวณหลัง โดยเน้นครอบแก้วเพื่อคลายกล้ามเนื้อ ร่วมกับการทำกายภาพ|J-CLINIC

ครอบแก้ว หรือ Cupping therapy เป็นหนึ่งในวิธีบำบัดโรคของศาสตร์การแพทย์แผนจีนซึ่งค้นพบมานานหลายพันปี ในสมัยก่อนเริ่มต้นจากการนำอุปกรณ์ง่าย ๆ ที่มีอยู่รอบตัวมาประยุกต์ใช้ ได้แก่ กระบอกไม้ไผ่ ต่อมาจึงค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นอุปกรณ์ที่มีความปลอดภัยและใช้ได้สะดวกมากขึ้น ได้แก่ ถ้วยหรือชามกระเบื้อง จนพัฒนามาเป็นแก้วหรือถ้วยพลาสติกที่ใช้สำหรับครอบแก้วโดยเฉพาะดังที่ใช้กันในปัจจุบัน

カッピングの施術をするJ-CLINICの中医師

 

โดยแพทย์จะนำคีมคีบสำลีชุบแอลกอฮอล์มาจุดไฟ วนเข้าไปในถ้วยแก้วที่ใช้สำหรับครอบเพื่อให้เกิดสุญญากาศ จากนั้นจะรีบนำถ้วยแก้ววางบนตัวผู้ป่วยในบริเวณที่ต้องการครอบแก้วเพื่อรักษาโรค โดยทั่วไปจะเป็นบริเวณที่มีกล้ามเนื้อหรือมีอาการปวด เช่น บ่า ไหล่ หลัง ต้นแขน ต้นขา เป็นต้น แก้วจะดูดผิวหนังบริเวณนั้นให้ตึง ทิ้งแก้วไว้ประมาณ 5-10 นาทีจึงดึงแก้วออก

 

จะพบว่าบริเวณที่แก้วดูดนั้นจะมีลักษณะเป็นรอยจ้ำเป็นสีที่ต่างกัน ตั้งแต่สีชมพูอมแดง แดง ไปจนถึงดำคล้ำ ซึ่งจะบ่งบอกถึงลักษณะร่างกายและอาการของผู้ป่วยที่แตกต่างกันออกไปด้วย

 

  1. ถ้ามีรอยสีชมพูอ่อน แสดงว่า ร่างกายสุขภาพดี เลือดลมไหลเวียนดี

  2. ถ้ามีรอยสีแดงอมม่วง แสดงว่า ร่างกายมีความร้อนชื้นสะสม อ่อนล้า ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ

  3. ถ้ามีรอยสีดำคล้ำ แสดงว่า ปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง เลือดลมติดขัด หรือเลือดคั่งบริเวณนั้นได้

  4. ถ้ามีรอยสีเนื้อขาวซีดอ่อน แสดงว่า เลือดและลมปรานอยู่ในระดับพร่อง พลังในร่างกายน้อยกว่าปกติ

  5. ถ้ามีรอยสีแดงมีจุดสีม่วงกระจายอยู่ แสดงว่า พลังชี่ติดขัดหรือมีเลือดคั่งบริเวณนั้น ความเย็นสะสมภายในร่างกาย

 

ทางการแพทย์แผนจีน การครอบแก้วช่วยทำให้เลือดลมไหลเวียนสะดวก กำจัดพิษ (ซึ่งก็คือเลือดคั่งที่ปลายเส้นเลือดฝอย หรือความร้อนที่อยู่ในร่างกาย) ความร้อนจากไฟที่ใช้ไล่อากาศในแก้วให้อยู่ในสภาวะสุญญากาศจะช่วยอุ่นลมปราณให้ไหลเวียนได้คล่องขึ้น เมื่อเลือดและลมปราณไหลเวียนได้ดี อาการปวดหรืออาการเจ็บป่วยนั้นก็จะทุเลาลงหรือหายไปด้วยเช่นกัน

 

ครอบแก้วในทางวิทยาศาสตร์?

ในทางวิทยาศาสตร์สามารถอธิบายหลักการของการครอบแก้วได้ว่า เมื่อกล้ามเนื้อตึงหดเกร็งไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม จะทำให้เราเกิดอาการปวดกล้ามเนื้อ ที่หดเกร็งนี่เองจะไปบีบรัดให้เส้นเลือดฝอยเล็ก ๆ ใต้ผิวหนังบริเวณนั้นไหลเวียนเลือดไม่สะดวกและเกิดเลือดคั่ง (blood clot) ที่ส่วนปลายของเส้นเลือดฝอย

การครอบแก้วใช้หลักการทางสุญญากาศดูดให้ผิวหนังตึง ซึ่งจะทำให้เส้นเลือดฝอยเล็ก ๆ ที่มีเลือดคั่งเหล่านั้นแตกออกเพื่อปรับความดันในเส้นเลือดฝอย เลือดที่เคยคั่งอยู่จะไหลไปอยู่ใต้ผิวหนัง ทำให้เราเห็นเป็นรอยจ้ำแดง ๆ เลือดจากบริเวณอื่นก็จะไหลเวียนมาแทนที่ ส่งผลให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น รอยแดงเหล่านี้จะถูกร่างกายกำจัดออกผ่านกระบวนการกำจัดของเสีย ส่วนเส้นเลือดฝอยที่แตกนั้นร่างกายก็สามารถซ่อมแซมตัวเองได้เช่นกัน

 

หลังครอบแก้วควรปฏิบัติตนอย่างไร?

ตามปกติหลังครอบแก้วผู้ป่วยจะรู้สึกเมื่อยเล็กน้อยบริเวณที่มีรอยจ้ำสีแดง แต่ถ้าหากเราสัมผัสลมเย็นหรือน้ำเย็นทันทีหลังครอบแก้วจะเป็นการหยุดเลือดแทนที่จะให้มันไหลเวียนปรับสภาพไปตามธรรมชาติ เลือดที่รอยจ้ำเหล่านี้ก็จะคั่งหนักกว่าเดิม จากที่จะหายปวดกลับกลายเป็นปวดมากขึ้น ฉะนั้นเมื่อครอบแก้วแล้วไม่ควรอาบน้ำหรือตากลมเย็นทันที ควรทิ้งระยะเวลาไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมงจึงค่อยอาบน้ำ อย่าลืมจิบน้ำอุ่น ๆ เพื่อกระตุ้นให้เลือดและลมปราณไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้นด้วยหลังจากครอบแก้ว 5-7 วัน รอยจ้ำรอยแดงเหล่านี้ก็จะค่อย ๆ หายไปในที่สุด

การครอบแก้วเหมาะกับผู้ที่มีอาการปวดบริเวณต่าง ๆ ตามร่างกาย เช่น ปวดต้นคอ บ่า ไหล่ เอว หลัง เป็นต้น นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้ที่เป็นหวัดในระยะเริ่มแรก นอนไม่หลับ หรือผู้ที่ต้องการปรับสมดุลทั่วไปของร่างกายอีกด้วย ผู้ที่ไม่ควรได้รับการรักษาด้วยการครอบแก้ว ได้แก่ ผู้ป่วยมะเร็ง โรคผิวหนังติดเชื้อ อ่อนเพลีย หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยวัยชรา ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์แผนจีนก่อนครอบแก้วทุกครั้ง เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ป่วยนั่นเอง

การครอบเเก้วสามารถรักษาได้ทั้งโรคทางอายุรกรรมและอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ถ้าคนไข้มาด้วยอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ทางเจคลินิกจะมีการเช็คกล้ามเนื้อ เช็คท่าทางการเดินยืน นั่ง เดิน เพื่อเลือกการรักษาที่เหมาะสม โดยบางเคสเราจะใช้การครอบแก้วร่วมกับการทำกายภาพเพื่อให้อาการปวดเมื่อยถูกรักษาจากต้นเหตุเเละลดการกลับมาเป็นซ้ำ

 

เคสตัวอย่างผู้ป่วย

รักษาอาการปวดบริเวณหลัง โดยเน้นครอบแก้วเพื่อคลายกล้ามเนื้อ ร่วมกับการทำกายภาพ

筋トレをしている男性

คุณ A เพศชาย อายุ 38 ปี รักษาทั้งหมด 9ครั้ง โดยรักษาติดต่อกันสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
โดยปกติคนไข้ออกกำลังกายโดยสม่ำเสมอ ลักษณะการออกกำลังกายคือ การยกเวท เดิน ทำให้มีการใช้กล้ามเนื้อที่มากเกินไปและทำให้เกิดการอาการบาดเจ็บ
อาการ : กล้ามเนื้อบริเวณหลังค่อนข้างตึง จะรู้สึกเจ็บมากบริเวณช่วงเอวและสะโพก โดยเฉพาะช่วงที่มีการออกกำลังกายและเวลาเดิน

 

カッピングをした後の背中の状態
BEFORE (The first time of Cupping therapy) *มีรอยสีดำคล้ำ แสดงว่า ปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง เลือดลมติดขัด หรือเลือดคั่งบริเวณนั้นได้ AFTER (Cupping therapy of 9th session)

 

 

手技治療と電気治療
การทำกายภาพ (Manual therapy and Ultrasound therapy)

 

หลังการรักษา : กล้ามเนื้อค่อนข้างนิ่มลง มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เวลาออกกำลังกายหรือเดินไม่รู้สึกเจ็บ
การแนะนำหลังการรักษา : สอนท่าทางการเดินที่ถูกต้อง และการใช้ massage ball บริเวณจุดกดเจ็บเพื่อคลายกล้ามเนื้อ

จากรูปจะเห็นว่าครั้งแรกในการรักษา สีรอยครอบแก้วที่ปรากฎค่อนข้างสีดำคล้ำ แสดงให้เห็นถึงของอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง เลือดลมติดขัด เลือดคั่งบริเวณนั้น หลังจากที่รักษาอย่างต่อเนื่องโดยสัปดาห์ละ 1ครั้ง ติดต่อกัน 9 สัปดาห์ สีของรอยครอบแก้วค่อยๆจากลง ซึ่งสีที่จางลงนั้นจะเห็นได้ชัดตั้งเเต่หลังการรักษาครั้งแรก เนื่องจากกล้ามเนื้อคลายตัว ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นและส่งผลให้บาลาซน์ช่วงลำตัวของคนไข้ก็ดีขึ้นเช่นกัน โดยสังเกตได้ชัดเจนในการรักษาครั้งที่9 ทั้งนี้คนไข้มีการออกกำลังกายและทำตามคำแนะนำอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ได้ผลการรักษาดีขึ้นเรื่อยๆในทุกๆสัปดาห์

 

 

初診に関するよくある質問|J-CLINIC鍼灸漢方科

 

初診に関するよくある質問|J-CLINIC理学療法科

 

(日本語) 首こり、肩こり、頭痛、めまい、自律神経失調症の鍼治療|J-CLINIC鍼灸漢方科

Sorry, this entry is only available in 日本語.

(日本語) 五十肩・四十肩の炎症期における問診と治療法を勉強する|J-CLINIC理学療法科

Sorry, this entry is only available in 日本語.

(日本語) 腰痛や頚椎椎間板ヘルニアなどの整形外科的テスト、治療計画、問診、治療を練習する|J-CLINIC理学療法科・鍼灸漢方科

Sorry, this entry is only available in 日本語.

(日本語) 四十肩、インピンジメント症候群など肩関節の不調を治療する練習|J-CLINIC理学療法科

Sorry, this entry is only available in 日本語.

(日本語) ぎっくり腰、五十肩、坐骨神経痛、腱鞘炎、捻挫に効果的な超音波治療|J-CLINICの理学療法科

Sorry, this entry is only available in 日本語.

(日本語) 頭痛、めまい、肩痛、腰痛の鍼治療の技術を練習する|J-CLINIC鍼灸漢方科

Sorry, this entry is only available in 日本語.

(日本語) 筋膜性疼痛症候群、腰痛、肩こりを手技療法で治療する|J-CLINIC理学療法科

Sorry, this entry is only available in 日本語.

(日本語) 捻挫をエコーで検査、腕の痺れや首肩の張りに効果的な手技治療を練習する|J-CLINIC理学療法科・鍼灸漢方科

Sorry, this entry is only available in 日本語.

(日本語) 肩痛、頭痛、腕や手の痺れに効果的な手技治療を練習する|J‐CLINIC理学療法科

Sorry, this entry is only available in 日本語.

(日本語) Kickoff meeting 2024(上半期)を開催しました|J-CLINIC

Sorry, this entry is only available in 日本語.

(日本語) 腰痛、坐骨神経痛、梨状筋症候群の痛みを緩和する鍼治療を練習する|J-CLINIC鍼灸漢方科

Sorry, this entry is only available in 日本語.

(日本語) 五十肩、インピンジメント症候群など肩関節拘縮の検査と治療を勉強する|J-CLINIC理学療法科

Sorry, this entry is only available in 日本語.

(日本語) 2023年最後の月例勉強会!首肩腰の治療を勉強する|J-CLINIC理学療法科

Sorry, this entry is only available in 日本語.