การรักษาอาการเหงื่อออกผิดปกติด้วยศาสตร์การแพทย์แผนจีน | เจ สหคลินิค

สวัสดีค่ะ คุณหมอหลิงๆ จากแผนกฝังเข็มและยาจีน เจสหคลินิก นะคะ

 

วันนี้ฉันจะตอบคำถาม “ผมเป็นโรคเหงื่อออกมาก เหงื่อออกใต้วงแขนเยอะมาก โดยเฉพาะเวลารู้สึกวิตกกังวลหรือประหม่า การฝังเข็มและยาสมุนไพรจีนสามารถรักษาโรคนี้ได้ไหม”นะคะ

 

แนวคิดของแพทย์จีนเกี่ยวกับ “เหงื่อออกมาก” ในศาสตร์จีน


แนวคิดของแพทย์จีนเกี่ยวกับ “เหงื่อออกมาก” ในศาสตร์จีน เหงื่อเกี่ยวข้องกับ หัวใจ ปอด ม้าม ไต และพลังงานชีวิต (ชี่)

 

 

脇と胸と顔に汗をかいている男性。おでこの汗を白いタオルでぬぐっている。
ถ้าเหงื่อออกมาก หมายถึงร่างกายมีความไม่สมดุล เช่น พลังงานอ่อนแอ มีความร้อนใน หรือร่างกายพร่อง

 

โดยเฉพาะในกรณีที่เหงื่อออกใต้วงแขนมากและเกี่ยวข้องกับความวิตกกังวลหรือความเครียด เป็นภาวะที่พบได้ และสามารถรักษาได้ทั้งการฝังเข็ม และ การใช้สมุนไพรจีน

 

 

 

 

การรักษาอาการเหงื่อออกผิดปกติด้วยศาสตร์การแพทย์แผนจีน


การฝังเข็ม

鍼にパルス電流を流している
การฝังเข็มช่วย ปรับสมดุลของระบบประสาทอัตโนมัติ ซึ่งมีบทบาทในการควบคุมการหลั่งเหงื่อ จากประสบการณ์ทางคลินิกพบว่า การฝังเข็มสามารถช่วยลดความวิตกกังวล ความเครียด และปรับสมดุลหยิน-หยางในร่างกาย

 

ซึ่งอาจส่งผลทางอ้อมต่อการควบคุมเหงื่อ และจุดฝังเข็มที่อาจใช้: Shenmen (HT7), Neiguan (PC6), Sanyinjiao (SP6) และ LI4

สมุนไพรจีน

J-CLINICの粉末漢方薬がスプーンにのっている
ตามหลักของการแพทย์จีน กรณีของเหงื่อออกมากมักมองว่าเกิดจากภาวะ “พร่องของพลังชี่ (Qi deficiency)” หรือ “หยินพร่อง (Yin deficiency)

 

สูตรยาที่อาจใช้ ได้แก่: Gui Pi Tang (汤) – สำหรับผู้ที่มีภาวะชี่พร่อง+อารมณ์วิตก /Tian Wang Bu Xin Dan (天王心丹) – ใช้ในผู้ที่มีอาการใจสั่น นอนไม่หลับ วิตกกังวล และเหงื่อออกกลางคืน/Sheng Mai San (生脉散) – เสริมชี่และรักษาภาวะเหงื่อออกมาก

 

การเลือกจุดฝังเข็มและยาสมุนไพรต้องพิจารณาตามการวินิจฉัยของแพทย์แผนจีน (TCM practitioner) ที่มีประสบการณ์ โดยจะดูอาการโดยรวม

治療計画を説明する中医師
ลิ้น ชีพจร และสมดุลของธาตุในร่างกาย ต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอในการรักษา

 

📞For Booking

  • Phrom Phong: 097-257-3577
  • Thonglor: 084-424-1299
  • Ekkamai: 097-245-7863

 

โรคปวดเส้นประสาทใบหน้ากับการรักษาด้วยแพทย์แผนจีน | เจ สหคลินิค

三叉神経痛のイラスト
โรคปวดเส้นประสาทใบหน้า

1. โรคปวดเส้นประสาทใบหน้าคืออะไร?


โรคนี้คืออาการปวดใบหน้าอย่างรุนแรง มักปวดเป็นพัก ๆ

Brain and nerve illustration
คล้ายไฟฟ้าช็อต เกิดจากเส้นประสาทสมองคู่ที่ 5 ทำงานผิดปกติ

 

女性の顔と脳の神経のイラスト
ทำงานผิดปกติ มักมีอาการที่หน้าผาก แก้ม หรือขากรรไกรล่าง เกิดจากเส้นประสาทส่วนนี้ถูกกดทับจากหลอดเลือดหรือเนื้องอก

 

ตามทฤษฎีแพทย์จีน อาการนี้มักเกิดจาก “ลมเย็นกระทบเส้นลมปราณ” หรือ “พลังและเลือดไหลเวียนติดขัด” ทำให้เกิดอาการปวดที่ใบหน้า

 

2. ฉันเป็นโรคปวดเส้นประสาทใบหน้า สามารถรักษาด้วยการแพทย์แผนจีนได้ไหม?


การรักษาด้วยแพทย์แผนจีน เช่น ฝังเข็มและยาจีน สามารถช่วยลดการอักเสบ ปรับสมดุลพลังงาน (ชี่) และฟื้นฟูเส้นประสาทที่อ่อนแอ จึงช่วยบรรเทาอาการปวดเส้นประสาทใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การรักษาด้วยแพทย์แผนจีนเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ตอบสนองต่อยาแผนปัจจุบัน มีผลข้างเคียงจากยา หรือไม่ต้องการรักษาด้วยวิธีผ่าตัด โดยผู้ป่วยหลายรายสามารถควบคุมอาการให้ดีขึ้นอย่างมาก ช่วยยืดเวลาที่ไม่ต้องพึ่งยา และลดความถี่ของอาการปวดได้อย่างชัดเจน

顔に鍼を打たれている女性
ฝังเข็ม

 

J-CLINICの粉末漢方薬がスプーンにのっている
ยาจีน

อย่างไรก็ดี อาการจะหายขาดได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของโรค ในบางรายสามารถฟื้นฟูอาการให้ดีขึ้นจนไม่ต้องใช้ยาแผนปัจจุบันต่อเนื่อง แต่ต้องดูแลสุขภาพ ควบคุมความเครียด และป้องกันปัจจัยกระตุ้นร่วมด้วย และควรได้รับการประเมินทั้งจากแพทย์แผนจีนและแพทย์แผนปัจจุบันร่วมกัน เพื่อกำหนดแนวทางการรักษาที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับร่างกาย

 

การรักษาด้วยการฝังเข็มมีองค์ประกอบหลักในการรักษาดังนี้:

  • การหาและปักจุด Ashi : จุด Ashi คือจุดที่มีอาการเจ็บเฉพาะจุด มักซ่อนอยู่ตามแนวแขนงของเส้นประสาท เช่น แขนง V2 (เส้นประสาทใต้เบ้าตา) จุด Ashi มักซ่อนอยู่ ใต้โหนกแก้ม ,แขนง V3 (เส้นประสาทกรามล่าง) จุด Ashi มักอยู่ บริเวณปลายคางหรือใต้คาง เป็นต้น นอกจากจุดฝังเข็มบนใบหน้าแล้ว ยังมีการรักษาที่แขนและขา โดยคำนึงถึงความสมดุลของร่างกายโดยรวม
  • การกระตุ้นด้วยไฟฟ้า : ใช้ ความถี่ที่เหมาะสมกระตุ้นเข็ม ควรตั้งระดับไฟกระตุ้นให้ เบา หรือ รู้สึกเพียงเล็กน้อยหรือเกือบไม่รู้สึก การกระตุ้นด้วยไฟฟ้าในลักษณะนี้พบว่า ช่วยลดความเจ็บปวดได้ดีที่สุด การกระตุ้นบริเวณที่มีอาการปวดมากที่สุดอย่างรุนแรงจะทำให้ร่างกายตึงและไม่ได้ผลการรักษาที่ดีนัก โดยทั่วไปจึงควรกระตุ้นบริเวณใบหน้าเบาๆ
  • การเสริมการรักษาด้วยการรมยา : ใช้ร่วมกับการฝังเข็มเพื่อเพิ่มพลังงาน (Qi) และกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ซึ่งช่วยเสริมประสิทธิภาพในการบำบัดอาการปวดได้อีกทางหนึ่ง

 

足裏のツボ、三叉神経に赤丸をしている
การหาและปักจุด Ashi

 

鍼にパルス電流を流している
การกระตุ้นด้วยไฟฟ้า

 

3. โรคปวดเส้นประสาทใบหน้า เกิดจากเส้นประสาทถูกกดทับ การรักษาด้วยแพทย์แผนจีนไม่ได้ทำอะไรกับการกดทับนั้นเลย ทำไมจึงรักษาอาการของโรคนี้ได้?


แม้การแพทย์แผนจีนจะไม่ได้ผ่าตัดเพื่อแก้ไขการกดทับโดยตรง แต่สามารถบรรเทาอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น

  • ลดการอักเสบและบวมรอบเส้นประสาท ทำให้แรงกดทับลดลง และการไหลเวียนดีขึ้น
  • กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและพลังงาน (ชี่) ช่วยให้ระบบประสาทฟื้นตัว และลดความไวต่อความเจ็บปวด
  •  คลายกล้ามเนื้อรอบจุดที่ถูกกดทับ กล้ามเนื้อที่ตึงหรือหดเกร็งอาจเพิ่มแรงกดที่เส้นประสาท การฝังเข็มหรือประคบช่วยลดจุดนี้ได้
陰陽の白黒のイラスト
ปรับสมดุลภายในของร่างกาย เมื่อชี่และเลือดไหลเวียนดีขึ้น ร่างกายจะมีพลังซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเองได้ดีขึ้น

 

4. ต้องรักษานานแค่ไหนถึงจะดีขึ้น?


ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่เป็น ความรุนแรงของอาการ และสภาพร่างกายโดยรวม โดยทั่วไป มักเริ่มเห็นผลภายในการรักษา ประมาณ 5–10 ครั้งแรก หากทำการรักษา อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ

 
 

5. การรักษาด้วยวิธีแพทย์แผนจีนปลอดภัยไหม? มีผลข้างเคียงหรือไม่?


การรักษาด้วยแพทย์แผนจีนมีความปลอดภัยสูง

脈診をする中医師
โดยแพทย์จะประเมินร่างกายและติดตามอาการอย่างใกล้ชิดเพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยที่สุด

 

ผลข้างเคียงที่อาจพบ (พบได้น้อย และมักเป็นเพียงชั่วคราว):

  • รอยช้ำเล็กน้อยจากการฝังเข็ม

6. ควรเตรียมตัวอย่างไรก่อนมารักษา?


  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • หลีกเลี่ยงลมแรงหรืออากาศเย็นจัดก่อนเข้ารับการรักษา
  • รับประทานอาหารอย่างพอเหมาะ (ไม่ควรมารักษาตอนหิวจัดหรืออิ่มมากเกินไป)
  • นำประวัติการรักษาเดิม เช่น ผลตรวจ MRI หรือรายชื่อยาที่ใช้อยู่ มาให้แพทย์พิจารณาประกอบ
  • หากมีโรคประจำตัวหรือแพ้สมุนไพร ควรแจ้งแพทย์ก่อนเริ่มการรักษา

(日本語) 膝痛を抱える方の歩行分析とアキレス腱炎のエコー検査を勉強する|J-CLINIC理学療法科・鍼灸漢方科

Sorry, this entry is only available in 日本語.

(日本語) 膝の痛み、ベーカー嚢腫と膝窩部痛をエコーで検査する|J-CLINIC理学療法科・鍼灸漢方科

Sorry, this entry is only available in 日本語.

耳鳴り・難聴を鍼灸で治療する。

Sorry, this entry is only available in 日本語.

ストレス緩和の鍼灸治療とセルフケア

Sorry, this entry is only available in 日本語.

สำหรับคนไข้ชาวต่างชาติ ต้องการฝังเข็ม ยาจีน และครอบแก้ว ทางคลินิกมีล่ามสำหรับคนไข้ชาวญี่ปุ่นโดย

สำหรับคนไข้ชาวต่างชาติ ต้องการฝังเข็ม ยาจีน และครอบแก้ว ทางคลินิกมีล่ามสำหรับคนไข้ชาวญี่ปุ่นโดยเฉพาะให้บริการที่สาขาพร้อมพงษ์ เพราะเราเชื่อว่าการสื่อสารและการอธิบายการรักษาที่ดี จะช่วยให้คนไข้ได้รับผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

Schedule of the Japanese interpreter for the acupuncture and Chinese medicine department

 

สาขาพร้อมพงษ์

  • วันอังคาร 9.00 – 18.00 น

  • วันเสาร์ 9.00 – 18.00 น

  • วันอาทิตย์ 9.00-18.00 น

 

สาขาทองหล่อ

  • วันจันทร์ 9.00-18.00 น

  • วันพุธ 10:00 – 14:00 น

  • วันพฤหัสบดี 10.00-14.00 น

  • วันอาทิตย์ 9.00-18.00 น

 

สาขาเอกมัย

  • วันจันทร์ 9.00 – 13.00 น

  • วันพฤหัสบดี 9:00 – 18:00 น

  • วันศุกร์ 9.00 – 18.00 น

 

Update: 20/2/2025

 

*  The above times and days may change without notice. Please make an appointment in advance.

สาขาพร้อมพงษ์

左から中医師、通訳者、通訳者、中医師が並んで座って笑顔
左から中医師Look Muu先生、通訳PreawさんとAeさん、中医師Nook先生

 

สาขาทองหล่อ

4人の女性が並んでたっている
左から中医師Frong先生、通訳Preawさん、通訳Nongさん、中医師Ling Ling先生

 

女性が3人座っている
左から中医師Ping先生、通訳Preawさん、中医師Nut先生

(日本語) 膝の触診法を練習!ランナー膝、ジャンパー膝、鵞足炎治療の理解を深める|J-CLINIC理学療法科・鍼灸漢方科

Sorry, this entry is only available in 日本語.

Q&A ของคนไข้ที่มีภาวะมีบุตรยาก ฝังเข็มช่วยให้ร่างกายพร้อมต่อการฝังตัวอ่อนในกระบวนการตั้งครรภ์

 สวัสดีค่ะ คุณหมอหลิงๆ จากแผนกฝังเข็มและยาจีน เจสหคลินิก นะคะ
妊娠検査薬を見ている夫婦のイラスト
สำหรับในบทความด้านล่างนี้จะเป็น Q&A ที่พบบ่อยจากคนไข้ที่มีภาวะมีบุตรยากจากคลินิกค่ะ

 

 

Q1. ประโยชน์ของการรักษาฝังเข็มต่อคนไข้ที่มีภาวะมีบุตรยาก


การฝังเข็มสามารถช่วยปรับร่างกายให้ระบบการหมุนเวียนเลือดและฮอร์โมนภายใน กลับสู่การทำงานที่มีสภาวะสมดุลที่ดี ซึ่งมีส่วนสำคัญในการช่วยเตรียมความพร้อมให้ร่างกายง่ายต่อการฝังตัวของตัวอ่อน ของกระบวนการตั้งครรภ์ได้ดียิ่งขึ้น

 

<จุดมุ่งหมายของการฝังเข็มต่อภาวะมีบุตรยาก>

  • ปรับในระดับฮอร์โมนให้อยู่ในภาวะสมดุล
  • ปรับการทำงานของมดลูกโดยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดบริเวณรังไข่และผนังมดลูก
  • ปรับให้ไข่ในรังไข่ผลิตออกมามีคุณภาพที่ดีขึ้นจึงทำให้สามารถฝังตัวได้ง่ายขึ้น
  • การผสมผสานการฝังเข็มในช่วงที่คนไข้มีการรักษาทางแพทย์ปัจจุบันกับทางโรงพยาบาลหรือคลินิกที่มีการทำการผสมเทียมเช่น การทำอิ๊กซี่(ICSI),IUI,AIH ร่วมด้วยจะช่วยส่งเสริมอัตราการตั้งครรภ์ในคนไข้ให้เพิ่มสูงขึ้น

Q2. คนไข้ที่มารักษาภาวะมีบุตรยาที่เจคลินิกมีอะไรบ้าง


คนไข้ส่วนใหญ่ที่มีการทำผสมเทียมที่โรงพยาบาลหรือคลินิกพิเศษอยู่แล้ว จะมารับการรักษาฝังเข็มควบคู่ไปด้วยกัน คนไข้ผู้มีภาวะมีบุตรยากจะรักษาฝังเข็มไปด้วยเพื่อให้อัตราการฝังตัวของตัวอ่อนเพิ่มสูงขึ้น

・การฝังเข็มควบคู่กับการรักษาด้วยการผสมเทียม (AIH) การทำเด็กหลอดแก้ว(IVF) การทำอิ๊กซี่ (ICSI)
・การฝังเข็มควบคู่กับการนับวันไข่ตก ระหว่างที่เตรียมพร้อมตั้งครรภ์ด้วยวิธีธรรมชาติ

 

 

 

Q3. การฝังเข็มในภาวะมีบุตรยากรักษาอย่างไรบ้าง


อันดับแรกคุณหมอแพทย์แผนจีนจะตรวจประเมินร่างกายเพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุของภาวะร่างกายภายในคนไข้ตามหลักทฤษฏีแพทย์แผนจีนว่าร่างกายเป็นอย่างไรบ้าง จากนั้นคุณหมอจะวิเคราะห์เลือกถึงวิธีการรักษาซึ่งประกอบไปด้วยการฝังเข็ม รมยา หรือยาจีนให้สอดคล้องกับภาวะอาการของคนไข้ตามขั้นตอน

治療計画を説明する中医師
วินิจฉัยอาการจากผลตรวจสุขภาพของคนไข้ คุณหมอจะวินิจฉัยลักษณะทางกายภาพโดยตรวจสอบจาก ลิ้น ชีพจร สุขภาพร่างกาย การใช้ชีวิตประจำวัน

 

สำหรับคนไข้ที่มีการรักษาการผสมเทียมอยู่แล้ว คุณหมอแผนจีนจะการใช้ข้อมูลผลตรวจทางแพทย์ปัจจุบันร่วมกับการรักษาฝังเข็มเพื่อวางแผนการรักษาให้สอดคล้องไปในทางเดียวกัน

 

ผลของการฝังเข็มและรมยาขึ้นอยู่กับอาการและเงื่อนไขคนไข้
การฝังเข็มและรมยาช่วยเพิ่มให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ปรับสมดุลฮอร์โมนและอุณภูมิในร่างกาย และกระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติ

 

หลังการรักษา คุณหมอจะเตรียมเทคนิคการดูแลร่างกายให้กับคนไข้ให้สอดคล้องกับลักษณะอาการของคนไข้ บางอาการคุณหมอจะแนะนำให้ทานยาจีน หรืออบสมุนไพรเพิ่มเติมอีกด้วย

 

Q4. หากมีการรักษาฝังเข็มหรือรมยาอย่างใดอย่างหนึ่งทันทีหลังการผสมเทียมจะมีผลลัพธ์ที่ดีหรือไม่


โดยทั่วไปผลการรักษาขึ้นอยู่กับลักษณะอาการของคนไข้ การรักษาเพียงครั้งเดียวมีประสิทธิภาพค่อนข้างน้อย สำหรับการเพิ่มอัตราการฝังตัวอ่อน แนะนําคนไข้ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการทำIUI,IVF ให้มีการรักษาฝังเข็มต่อเนื่องตามการประเมินของคุณหมอแพทย์แผนจีน ตั้งแต่วันที่ผสมอสุจิกับไข่ในร่างกาย

 

สิ่งสำคัญก่อนที่จะเริ่มเข้ารับการรักษาการฝังเข็มที่คลีนิค ไม่ใช่การฝังเข็มเพียงหลังการผสมเทียมเท่านั้น หากช่วงก่อนการผสมเทียมก็มีความสำคัญมากๆเช่นกัน ดังนั้นควรเตรียมความพร้อมร่างกายที่ดีและร่างกายที่พร้อมสำหรับการตั้งครรภ์

ฟอลลิเคิลภายในรังไข่ใช้เวลาประมาณ 150 วันในการเจริญเติบโต ควรใช้เวลาเตรียมพร้อมร่างกายประมาณ 3-6 เดือน โดยทั่วไปแนะนําให้มารักษาที่คลินิกทุกสัปดาห์หรือทุกๆ 10 วัน

สําหรับผู้ที่ไม่สามารถมารักษาได้บ่อยๆ ทางคลีนิกสามารถจ่ายยาสมุนไพรจีน ท่านสามารถใช้ moxibustion ที่บ้านได้ และทางคลีนิกสามารถให้คําแนะนําเกี่ยวกับอาหารที่ควรรับประทานได้

 

ยกตัวอย่าง

  • ภาวะมีบุตรยาก เกิดจากภาวะชี่ไหลเวียนติดขัด
  • เกิดจากภาวะไตพร่อง
  • เกิดจากเลือดและชี่พร่อง
  • เกิดจากภาวะเลือดไหลเวียนติดขัด
  • เกิดจากเสมหะและความชื้น

 

Q5. หลังจากการทำเด็กหลอดแก้วครั้งแรก (IVF) ไข่ไม่สามารถฝังตัวที่มดลูกได้ทำให้ไม่สามารถตั้งครรภ์ ในการทำเด็กหลอดแก้วครั้งที่ 2 ฝังเข็มสามารถมีส่วนช่วยในการปฏิสนธิไหม?


การฝังเข็มหรือการทานยาจีนสามารถเพิ่มการไหลเวียนเลือดในเยื่อบุโพรงมดลูกและปรับความสมดุลของฮอร์โมน ดังนั้นคุณภาพของมดลูกจะค่อยๆดีขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มความหนาของเยื่อบุโพรงมดลูก จึงทำให้การฝังตัวของตัวอ่อนมีโอกาสที่สำเร็จมากยิ่งขึ้น

 

จากที่กล่าวมา การฝังเข็มสามารถทำให้ความเครียดสะสมในร่างกายลดลง เนื่องจากเข็มช่วยกระตุ้นร่างกายส่งเสริมการปล่อยฮอร์โมน endorphins(ฮอร์โมนแห่งความสุข) ส่วนมากคนไข้ที่ทำ IVF ภาวะทางอารมณ์อ่อนไหวและอ่อนเพลีย เนื่องจากตารางการไปหาหมอที่โรงพยาบาลค่อนข้างยุ่ง จึงมีหลากหลายอารมณ์ เช่น ความประหม่า ความวิตกกังวล การรอคอยอย่างคาดหวัง ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาทำให้เกิดการนอนหลับที่ไม่ดี การฝังเข็มช่วยลดความอ่อนเพลียและผ่อนคลายมากขึ้น จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลว่าทำไมคนไข้ควรมาฝังเข็มก่อนเข้ารับการรักษา IVF


การฝังเข็มมีส่วนสำคัญในการช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ให้เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากคุณแม่ที่กำลังจะตั้งครรภ์ ต้องแก้ปัญหาต่างๆเกี่ยวกับร่างกาย เช่น ความเย็นในร่างกาย ความเหนื่อยอ่อนเพลีย ความตึงเครียด อาการปวดต่างๆ หรือระบบฮอร์โมนภายในร่างกายไม่สมดุล

อย่างไรก็ตามยังมีการรักษาอีกหลากหลายวิธีที่สามารถช่วยรักษาภาวะมีบุตรยากได้ หากมีความผิดปกติของร่างกายอื่นมาเป็นปัจจัยเสริม ในบางครั้งการฝังเข็มอาจไม่สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีสำหรับร่างกายคนไข้บางคนได้

หากท่านกำลังสงสัยว่าอยู่ในภาวะที่มีบุตรยาก ทางคลินิกแนะนำให้ท่านตรวจเช็คความพร้อมร่างกายสำหรับการตั้งครรภ์กับทางโรงพยาบาลก่อนรับการรักษาฝังเข็ม เช่น การวัดอุณหภูมิร่างกายในตอนเช้า การตรวจวิเคราะห์น้ำเชื้อหรือน้ำอุสจิ การตรวจมูกที่ปากมดลูก การฉีดสีตรวจท่อนำไข่ (HSG) การตรวจอัลตร้าซาวด์ทางช่องคลอด เพื่อที่จะยืนยันเกี่ยวสาเหตุของภาวะมีบุตรยาก (ซึ่งทางเจ สหคลินิก ไม่ได้รับการตรวจทั้งหมดที่กล่าวมา)

 

📞For Booking

  • Phrom Phong: 097-257-3577
  • Thonglor: 084-424-1299
  • Ekkamai: 097-245-7863

 

 

(日本語) バンコクでセルフ灸|J-CLINIC鍼灸漢方科

Sorry, this entry is only available in 日本語.

การรักษาอาการนอนไม่หลับ (Insomnia)|J-CLINIC

สวัสดีค่ะ หมอผิงจากเจสหคลินิกนะคะ ไม่ว่าจะนอนไม่หลับทั้งคืน หรือตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วนอนหลับต่อไม่ได้ หลับต่อยาก หลับไม่สนิท หลับแล้วตื่นง่าย หรือจะเป็นอาการหลับๆ ตื่นๆ ก็ไม่ควรนิ่งดูดาย หรือมัวแต่นอนนับแกะนับแพะอยู่ หรือคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติ เพราะเมื่อเรานอนไม่หลับ มันย่อมส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตในแต่ละวันของเราเกือบจะทั้งหมด

 

午前3時の時計を見ながら、ベッドの中で困った表情を見せる女性
อีกทั้งยังทำให้การทำงานของอวัยวะภายในร่างกาย โดยเฉพาะสมองของเราหย่อนสมรรถภาพลง นั่นก็เพราะว่า การนอนหลับคือการพักผ่อนที่ดีที่สุดของอวัยวะภายในร่างกายของเรา

 

แต่รู้หรือไม่ว่า การที่เราพึ่งพายานอนหลับเพื่อช่วยให้เรานอนหลับมันแย่ยิ่งกว่าการที่เรานิ่งดูดาย หรือมองเรื่องการนอนไม่หลับเป็นเรื่องปกติเสียอีก นั่นเพราะในตัวยาบางตัวของยานอนหลับบางชนิดมีสารออกฤทธิ์ที่อันตราย ถึงขั้นทำให้สูญเสียความทรงจำหรือร้ายแรงไปถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็มี หากมีการใช้อย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเวลานาน

 

อาการนอนไม่หลับ กับวิธีการรักษาตามศาสตร์การแพทย์แผนจีน


ศาสตร์การแพทย์แผนจีน

เป็นศาสตร์ในด้านการรักษาที่มีทฤษฎีและหลักการวินิจฉัยรักษาโรคที่แตกต่างจากการแพทย์แผนปัจจุบัน โดยถือว่า มนุษย์มีความเป็นเอกภาพกับธรรมชาติ กล่าวคือ เมื่อฤดูกาล เวลา สถานที่ มีการเปลี่ยนแปลง ก็จะมีผลกระทบต่อร่างกาย จึงส่งผลทำให้เกิดโรคและอาการต่างๆ ขึ้น

 

สาเหตุและกลไกการเกิดโรคในทางแพทย์จีน

ในมุมมองของแพทย์แผนจีนมักจะสัมพันธ์กับการรับประทานอาหารไม่ถูกสุขลักษณะ อารมณ์แปรปรวน การตรากตรำทำงานหนัก หรือร่างกายอ่อนแอหลังจากเจ็บป่วย เป็นต้น

 

 

 

 

 

肝・心・脾・肺・腎のイラスト
ตำแหน่งของโรคอยู่ที่หัวใจ สัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับตับ ม้าม ไต ถุงน้ำดีและกระเพาะอาหาร

 

กลไกการเกิดโรค คือ เสินหัวใจขาดการหล่อเลี้ยง หรือ ถูกรบกวน จิตใจ ไม่สงบ การทำงานของเส้นลมปราณขาดสมดุล หยางมีมากเกินไป อินมีน้อยเกินไป อินหยางขาดสมดุล

 

*เสิน (神)คือสติ ทำหน้าที่ในการควบคุมการนึกคิด จิตสำนึก

เป็นสิ่งที่มองไม่เห็นแต่สามารถสังเกตได้จากการแสดงออกของสีหน้า ความมีชีวิตชีวา แววตา

 

*หยาง ลักษณะร่างกายหยาง คล่องแคล่ว พูดเก่ง คิดไว กระวนกระวายง่าย กระฉับกระเฉง ขี้ร้อน ชีพจรเต้นเร็ว อารมณ์เสียง่าย หน้าแดง หายใจแรง หงุดหงิดง่าย ตัวร้อน กินเก่ง ท้องผูกง่าย คอและปากแห้ง เป็นต้น

 

*อิน ลักษณะร่างกายอิน เชื่องช้า สงบ หายใจเบา ชีพจรเต้นช้า หน้าซีดขาว ขี้หนาว แขนฝ่ามือ ฝ่าเท้า และขาเย็น ทานอาหารได้น้อย ท้องอืดง่าย ระบบย่อยไม่ค่อยดี ไม่ค่อยกระหายน้ำ เป็นต้น

 

陰陽の白黒のイラスト
**ปกติร่างกายคนเรามีหยินเเละหยางอยู่เสมอ โดยหยางจะมีมากในช่วงกลางวัน เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายตื่นตัว และหยินจะมีมากในช่วงกลางคืนเพื่อให้ร่างกายพักผ่อน

 

การวินิจฉัยแยกกลุ่มอาการ


แบ่งการวินิจฉัยตามกลุ่มอาการ 5 ประเภท

五行のイラスト
五行学説

 

1. กลุ่มอาการไฟตับกระทบหัวใจ(肝火扰心证)

อาการ : นอนไม่หลับ ฝันมาก ในรายที่อาการรุนแรงอาจถึงขั้นนอนไม่หลับทั้งคืน ใจร้อน โมโหง่าย เวียนศีรษะ ตึงศีรษะ ตาแดง หูอื้อ ปากแห้งหรือปากขม ท้องผูก ลิ้นแดงฝ้าเหลือง ชีพจรตึงเร็ว(弦数)

 

วิธีรักษา : ปรับการไหลเวียนของชี่ตับ ระบายร้อน สงบจิตใจ

 

2. กลุ่มอาการเสมหะร้อนกระทบหัวใจ(痰热扰心证)

อาการ : นอนไม่หลับ หงุดหงิด แน่นหน้าอก เรอ สะอึก ปากขม หนักศีรษะ ตาลาย ลิ้นค่อนข้างแดง ฝ้าเหลืองเหนียว ชีพจรลื่นเร็ว(滑数)

วิธีรักษา : สลายเสมหะร้อน ปรับสมดุลกระเพาะอาหาร สงบจิตใจ

 

3. กลุ่มอาการม้ามหัวใจพร่อง(心脾两虚证)

อาการ : หลับยาก ฝันมาก ตื่นบ่อย ใจสั่น ขี้ลืม อ่อนเพลีย แขนขาอ่อนแรง ทานอาหารน้อยลง ท้องอึด ถ่ายเหลว เวียนศีรษะ ตาลาย ใบหน้าไม่มีชีวิตชีวา ลิ้นซีดฝ้าบาง ชีพจรเล็กไม่มีแรง(细无力)

 

วิธีรักษา : บำรุงม้ามและหัวใจ บำรุงเลือด สงบจิตใจ

 

4. กลุ่มอาการหัวใจกับไตทำงานไม่ประสาน (心肾不交证)

อาการ : นอนไม่หลับ หงุดหงิด หลับยาก ใจสั่น ฝันมาก ปวดเมื่อยเอว ตัวร้อน เหงื่ออกตอนนอน ฝ่ามือฝ่าเท้าร้อน กลางอกร้อน เวียนศีรษะ คอแห้ง มีเสียงในหู ฝันเปียก(ผู้ชาย) ประจำเดือนมาไม่ปกติ(ผู้หญิง) ลิ้นแดงฝ้าบาง ชีพจรเล็กเร็ว(细数)

 

วิธีรักษา : บำรุงอิน ลดความร้อน เชื่อมประสานหัวใจและไต

 

5. กลุ่มอาการลมปราณหัวใจและถุงน้ำดีพร่อง(心胆气虚证)

อาการ : นอนไม่หลับ ฝันร้าย ตื่นตกใจง่าย ขี้ตกใจ ขี้กลัว ใจสั่น หายใจสั้น เหงื่อออกง่าย อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ลิ้นซีด ชีพจรตึงเล็ก(弦细)

 

วิธีรักษา : บำรุงลมปราณ ลดอาการตกใจ สงบจิตใจ

ตัวอย่างเคสศึกษาอาการนอนไม่หลับ


ชื่อ : คุณA  เพศ : หญิง อายุ : 36 ปี

ประวัติการเจ็บป่วย/ โรคประจำตัว : ผ่าตัดมดลูก ประมาณ 3 ปี , ไมเกรน

ベッドに起き上って、右手でおでこのあたりをおさえて苦しそうな表情をしている

 

คนไข้มาด้วยอาการนอนไม่หลับ ใช้เวลาในการเข้านอนประมาณ 1 ชั่วโมง ตื่นกลางดึกบ่อย และเข้านอนต่อยาก มีฝันเยอะระหว่างคืน ตื่นเช้าไม่สดชื่น ร่วมกับมีอาการปวดศีรษะ ตั้งแต่ท้ายทอยขึ้นมาถึงขมับทั้ง 2 ข้าง เหนื่อยง่าย มีความอยากอาหาร แต่ทานได้น้อย บางครั้งมีแก๊สในท้อง ขับถ่ายปกติ ไม่มีความเครียด

 

  • การตรวจร่างกาย : ลิ้นซีดแดง ฝ้าสีเหลือง ชีพจรเบา ไม่มีแรง
  • การวินิจฉัย : นอนไม่หลับ(不寐) กลุ่มอาการม้ามหัวใจพร่อง(心脾两虚)
  • วิธีการรักษา : รักษาด้วยการฝังเข็ม ควบคู่กับการทานยาจีน บำรุงม้ามและหัวใจ บำรุงเลือด
  • ตำรับยาที่ใช้ : กุยผีทัง(归脾汤) + 龙骨,牡蛎,白芷 เป็นต้น

 

ผลการรักษา : ในครั้งแรกของการรักษามีเพียงการฝังเข็มเพียงอย่างเดียว ทำให้ยังไม่เห็นผลการรักษาที่เปลี่ยนแปลงมากนัก ในครั้งถัดมา จึงได้ปรับการรักษาโดยการใช้ยาจีนควบคู่กับการฝังเข็ม หลังจากนั้น อาการของคนไข้เริ่มดีขึ้น คือ สามารถเข้านอนโดยใช้เวลาที่สั้นลง ไม่มีตื่นกลางคืน แต่ยังมีอาการฝันเยอะ อาการปวดหัวมีเป็นบางครั้ง บางครั้งมีทานยาแก้ปวดร่วมด้วย การรักษาฝังเข็มควบคู่กับการทานยาจีนร่วม ในช่วงแรกทำการรักษาสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ติดต่อกันประมาณ 6 ครั้ง ทำให้อาการนอนไม่หลับของคนไข้ดีขึ้น ใช้เวลาเข้านอนน้อยลง ไม่มีตื่นกลางดึก ตื่นเช้ามีแรงมากขึ้น

 

การฝังเข็ม

 

J-CLINICの粉末漢方薬がスプーンにのっている
การทานยาจีน

 

คำแนะนำสำหรับอาการนอนไม่หลับ


  • เข้านอนและตื่นนอนเวลาเดิมทุกเช้า ถึงแม้จะเป็นวันหยุดก็ตาม
  • หลีกเลี่ยงการงีบในช่วงกลางวันหรืองีบให้น้อยกว่า 1 ชั่วโมง และไม่ควรงีบหลังจากบ่าย 3 โมง
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักช่วงก่อนนอน
  • จัดห้องให้มีบรรยากาศเอื้อต่อการนอน เช่น เงียบ มืด มีอุณหภูมิที่เหมาะสม
  • หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่กระตุ้นให้ประสาทตื่นตัวหลังมื้อเที่ยง เช่น กาแฟหรือชา

 

หากใครที่มีอาการนอนไม่หลับให้ลองดูแลตัวเองตามคำแนะนำด้านบน หากอาการยังไม่ดีขึ้น สามารถเข้ามาปรึกษากับทางแพทย์แผนจีนได้ โดยวิธีการรักษาและระยะเวลา จะขึ้นอยู่กับอาการและดุลยพินิจของแพทย์

 

 

初診に関するよくある質問|J-CLINIC鍼灸漢方科

 

Other our blogs

 

สามารถทำการนัดหมายได้โดยการส่งไลน์หรือโทรไปที่คลินิกสาขาที่สะดวก โดยจะมีพนักงานชาวไทยจะเป็นผู้ดำเนินการรับเรื่องค่ะ

  • สาขาพร้อมพงษ์:097-257-3577

  • สาขาทองหล่อ:084-424-1299

  • สาขาเอกมัย:097-245-7863

 

J-CLINIC Phrom phong Line Account
สาขาพร้อมพงษ์

 

J-CLINIC Thonglor Line Account
สาขาทองหล่อ

 

Ekkamai Line Account
สาขาเอกมัย

 

 

การรักษาอาการหูมีเสียงด้วยการฝังเข็มตามแบบฉบับการแพทย์แผนจีน และแชร์เคสการรักษาอาการหูมีเสียง | J-CLINIC

สวัสดีค่ะ หมอฟร้องซ์จากเจสหคลินิกนะคะ วันนี้จะมาแชร์แนวทางการรักษาอาการหูมีเสียงตามแบบฉบับแพทย์แผนจีน และแชร์เคสการรักษาอาการหูมีเสียง พร้อมทั้งแนวทางการป้องกันและแนวทางในการดูแลตัวเองด้วยค่ะ

 

ตัวอย่างกรณีการรักษาผู้ป่วยหูมีเสียง

左の耳を抑えている男性
ชื่อ: คุณ J

เพศ: ชาย อายุ: 33 ปี

ประวัติการเจ็บป่วย/โรคประจำตัว: ปฏิเสธ

อาการหลัก: หูข้างซ้ายมีเสียง มีอาการมาประมาณ 1 ปี

 

อาการปัจจุบัน

  • มีอาการหูข้างซ้ายมีเสียง มีอาการมาประมาณ 1 ปี, 2-3 เดือนที่ผ่านมาเป็นหนักขึ้น เสียงที่ได้ยินจะเป็นเสียงเบาๆความถี่ต่ำ อาการหูมีเสียงจะเป็นหนักขึ้นเมื่อมีอาการตึงบริเวณคอบ่าร่วมด้วย

  • เคยไปตรวจที่โรงพยาบาล การได้ยินเสียงปกติ แพทย์แผนปัจจุบันจ่ายวิตามินบำรุงปลายประสาทมาให้ทาน แต่อาการหูมีเสียงยังเหมือนเดิม

  • อาการอื่นๆ ระบบย่อยอาหารไม่ดี รู้สึกอาหารไม่ย่อย เรอเป็นกลิ่นอาหาร และมีอาการแน่นท้อง

  • ความอยากอาหารลดลงในบางวันที่ถ่ายไม่ออก ทานน้ำเยอะ 3-5 ลิตรต่อวัน แต่ยังรู้สึกกระหายน้ำ เป็นร้อนในในปากง่าย (ช่วงไหนพักผ่อนน้อยจะเป็นร้อนในในปากบ่อย)

  • ท้องผูก (3-4วันถ่ายครั้งนึง)

  • การนอนหลับดี มีตื่นมาเข้าห้องน้ำบ้างและเข้านอนต่อได้ แต่เวลานอนไม่คงที่ (จากการทำงาน)

 

治療計画を説明する中医師
การตรวจร่างกาย: ลิ้นแดงเข้ม ฝ้าเหลืองมีฟองน้ำลาย มีรอยแตกกลางลิ้น

 

脈診をする中医師
ชีพจรพร่อง อ่อน และกลวง

 

การวินิจฉัยตามแพทย์แผนจีน: ภาวะหูมีเสียง (耳鸣)กลุ่มอาการ: กลุ่มอาการม้ามและกระเพาะอาหารพร่องร่วมกับกลุ่มอาการชี่ไตพร่อง

การวินิจฉัยตามแพทย์แผนปัจจุบัน: ภาวะมีเสียงในหูที่เกิดจากประสาทหูเสื่อม

วิธีการรักษา : รักษาด้วยการฝังเข็มและกระตุ้นไฟฟ้า

 

จุดฝังเข็ม

 

首回りの鍼治療を練習する中医師

จุดหลัก : จะเน้นคลายกล้ามเนื้อคอบ่าที่มีอาการตึงโดยจะเน้นมัดกล้ามเนื้อ SCM, Scalenus และ  Levator scapulae และใช้จุดที่บริเวณหน้าหู-หลังหู เพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือดและกระตุ้นการทำงานของเส้นประสาทบริเวณหู จะเลือกใช้จุดเอ่อร์เหมิน (耳门), จุดทิงกง (听宫), จุดทิงฮุ่ย (听会), จุดอี้เฟิง (翳风), จุดจงจู่ (中渚), จุดป๋ายฮุ่ย (百会), จุดเฟิงฉือ (凤池)

จุดเสริม : บำรุงอวัยวะม้าม กระเพาะอาหารและไต เพิ่มพลังงานและการไหลเวียนเลือด จะเลือกใช้จุด ผีซู (脾俞), จุดเว่ยซู (胃俞), จุดเซิ่นซู (肾俞), จุดกานซู (肝俞), จุดเฮอกู่ (合谷), จุดไท่ซี (太溪), จุดหยงฉวน (涌泉), จุดจือโกว (支沟), จุดเทียนซู (天枢), จุดชี่ห่าย (气海), จุดกวนหยวน (关元), จุดจู๋ซานหลี่ (足三里)

 

ผลการรักษา

หลังจากการรักษาต่อเนื่องด้วยการฝังเข็มคลายกล้ามเนื้อคอและบ่า ร่วมกับการฝังเข็มปรับสมดุล หลังรักษาไป 2 ครั้งอาการหูมีเสียงลดลงจาก 100% เหลือประมาณ 20% มีบางวันที่อาการหายไปเลย และความถี่ในการได้ยินเสียงลดลง แต่มีบางช่วงที่อาการหูมีเสียงกลับมาเป็นมากขึ้นเนื่องจากกล้ามเนื้อคอและบ่าตึง อาการร่วมอื่นดีขึ้นตามลำดับ หลังรักษาไป 2 ครั้งไม่มีอาการแน่นท้องแล้ว มีแก๊สในกระเพาะอาหารบ้างบางวัน ความอยากอาหารปกติ ไม่มีอาการร้อนใน อาการท้องผูกดีขึ้นประมาณ 1-2 วันถ่ายครั้งนึง การนอนหลับดี

 

วิเคราะห์ผลการรักษา

การรักษาในทุกๆครั้งจะเน้นไปที่การฝังเข็มปรับสมดุลภายในร่างกาย การบำรุงอวัยวะไต ม้ามและกระเพาะอาหาร และเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ในเคสผู้ป่วยรายนี้นอกจากฝังเข็มตามหลักการรักษาทางแพทย์แผนจีนแล้ว ยังมีการฝังเข็มเพื่อคลายกล้ามเนื้อคอและบ่าร่วมอีกด้วย เนื่องจากที่คนไข้กล่าวว่า “จะเป็นมากตอนช่วงที่ขับรถหรือก้มคออ่านหนังสือเป็นระยะเวลานานๆ” และลักษณะท่าทางของคนไข้ ซึ่งมีลักษณะคอยื่นไปและไหล่ห่องุ้มไปข้างหน้า จึงทำให้กล้ามเนื้อบริเวณคอหน้า (มัดกล้ามเนื้อ SCM, SCALENE และ LEVATOR SCAPULAE) มีความตึงตัวและหดตัวไปหนีบเส้นเลือดและเส้นประสาทที่ไปหล่อเลี้ยงบริเวณหู จึงทำให้เกิดอาการหูเสียงและนอกจากนี้คนไข้มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย ซึ่งอวัยวะที่เกี่ยวข้องก็คือม้ามและกระเพาะอาหาร ในทางการแพทย์แผนจีนเมื่ออวัยวะม้ามและกระเพาะอาหารพร่อง ก็จะทำให้ความสามารถในการย่อยอาหารน้อยลง เมื่อย่อยได้น้อยลงร่างกายก็จะได้รับสารอาหารน้อยลง และทำให้อวัยวะต่างๆรวมถึงทวารทั้ง 5 ได้รับสารอาหารมาหล่อเลี้ยงน้อยลงจึงทำให้เกิดอาการหูมีเสียง

 

肩甲挙筋と胸鎖乳突筋のイラスト
SCM และ LEVATOR SCAPULAE

 

 

斜角筋のイラスト
SCALENE

 

จากเคสกรณีตัวอย่างเราเลือกการรักษาอาการหูมีเสียงด้วยการฝังเข็ม อาการของคนไข้ดีขึ้นตามลำดับ มีช่วงที่อาการสงบและอาการกลับมากำเริบ เคสนี้คนไข้บอกว่าหลังจากที่ขับรถและมีการก้มคออ่านหนังสือเป็นระยะเวลานานทำให้มีอาการตึงบริเวณคอและบ่า และอาการหูมีเสียงกลับมากำเริบ จึงสรุปแนวทางการรักษาสำหรับเคสนี้ว่าส่วนหนึ่งเกิดจากการที่กล้ามเนื้อบริเวณคอและบ่าตึงตัวทำให้อาการหูมีเสียงกำเริบ และอีกส่วนคือการทำงานของอวัยวะม้ามและกระเพาะอาหารพร่องลงทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ เราจึงเน้นที่การคลายกล้ามเนื้อ การปรับท่าทางการใช้ชีวิตประจำวัน การกระตุ้นปลายประสาทบริเวณหู การปรับสมดุลร่างกายองค์รวม และการทานอาหารที่มีฤทธิ์บำรุงอวัยวะม้ามและกระเพาะอาหาร ส่วนใหญ่มักจะเป็นผักและผลไม้ที่มีสีเหลือง เช่น ลูกเดือย ฟักทอง เลม่อน ข้าวโพด แครอท และอาหารที่มีฤทธิ์บำรุงอวัยวะไต ส่วนใหญ่มักจะเป็นผักและผลไม้ที่มีสีม่วงหรือสีดำ เช่น ถั่วดำ องุ่นดำ เห็ดหูหนู งาดำ ลูกพรุน

 

การปรับสมดุลร่างกายองค์รวม และการทานอาหารที่มีฤทธิ์บำรุงอวัยวะม้ามและกระเพาะอาหาร ส่วนใหญ่มักจะเป็นผักและผลไม้ที่มีสีเหลือง เช่น ลูกเดือย ฟักทอง เลม่อน ข้าวโพด แครอท
การทานอาหารที่มีฤทธิ์บำรุงอวัยวะม้ามและกระเพาะอาหาร ส่วนใหญ่มักจะเป็นผักและผลไม้ที่มีสีเหลือง เช่น ลูกเดือย ฟักทอง เลม่อน ข้าวโพด แครอท

 

เช่น ถั่วดำ องุ่นดำ เห็ดหูหนู งาดำ ลูกพรุน
อาหารที่มีฤทธิ์บำรุงอวัยวะไต ส่วนใหญ่มักจะเป็นผักและผลไม้ที่มีสีม่วงหรือสีดำ เช่น ถั่วดำ องุ่นดำ เห็ดหูหนู งาดำ ลูกพรุน

 

 

การป้องกันไม่ให้เกิดเสียงในหู

    1. หลีกเลี่ยงเสียงดัง เช่น เสียงประทัด หรือเสียงปืน เสียงในสถานบันเทิงต่างๆ หากต้องทำงานในที่ที่มีเสียงดังมาก ควรใส่ที่ป้องกันเสียง
    2. หลีกเลี่ยงสารพิษ มีสารพิษหลายชนิดที่จะทำให้ประสาทหูเสื่อม และมีเสียงดังในหู เช่น ยาฉีดฆ่าเชื้อสเตร็ปโตไมซิน อมิโนกลัยโคไซด์
    3. ป้องกันหูและศีรษะจากการบาดเจ็บ เช่น ถูกตบที่หู ไม่ควรแคะหรือปั่นหู
    4. ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงจิตใจแจ่มใส ลดความเครียดและวิตกกังวล อย่าอยู่ในที่เงียบๆ คนเดียวนานๆ

 

 

初診に関するよくある質問|J-CLINIC鍼灸漢方科

 

Other our blogs

 

สามารถทำการนัดหมายได้โดยการส่งไลน์หรือโทรไปที่คลินิกสาขาที่สะดวก โดยจะมีพนักงานชาวไทยจะเป็นผู้ดำเนินการรับเรื่องค่ะ

  • สาขาพร้อมพงษ์:097-257-3577

  • สาขาทองหล่อ:084-424-1299

  • สาขาเอกมัย:097-245-7863

 

J-CLINIC Phrom phong Line Account
สาขาพร้อมพงษ์

 

J-CLINIC Thonglor Line Account
สาขาทองหล่อ

 

Ekkamai Line Account
สาขาเอกมัย

 

 

การรักษาอาการมือเท้าเย็นง่ายๆแบบฉบับแพทย์แผนจีน และแชร์เคสการรักษาอาการมือ-เท้าเย็น|J-CLINIC

สวัสดีค่ะ หมอพลอยจากเจสหคลินิกนะคะ จะมาแชร์แนวทางการรักษาอาการมือ-เย็นง่ายๆแบบฉบับแพทย์แผนจีน และแชร์เคสการรักษาอาการมือ-เท้าเย็น

 

แนวทางการรักษา

足先と手先が寒そうなイラスト

เบื้องต้นสามารถดูแลสุภาพและป้องกันการเกิดอาการมือ-เท้าเย็นได้ด้วยวิธีง่ายๆ สามารถทำได้ด้วยตัวเอง คือ

  • การสวมใส่เสื้อผ้าที่อบอุ่นและเหมาะสมกับสภาพอากาศ

  • ดื่มน้ำอุ่น น้ำขิงเพื่อให้ร่างกายเกิดความอุ่น

  • แช่เท้าด้วยสมุนไพรหรือแช่เท้าด้วยน้ำอุ่นก่อนนอนเพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่นและเพื่อให้ระบบเลือด ลมปราณไหลเวียนดี

 

 

乾燥と生の生姜のティー
ดื่มน้ำอุ่น น้ำขิงเพื่อให้ร่างกายเกิดความอุ่น

 

販売されている漢方足湯の写真
ผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลตนเองนี้ รวมสมุนไพรจีนแท้ ถึง 12 ชนิด (บรรจุ 5 ชิ้น) ราคา 350 บาท

 

หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเย็นได้ง่าย เช่น ตากลม ตากแอร์เป็นเวลานาน งดทานอาหารที่มีฤทธิ์เย็น(น้ำเย็น น้ำแข็ง ไอติม) เป็นต้น

 

ทางการแพทย์แผนจีนอาการมีมือ-เท้าเย็นมีลักษณะกลุ่มอาการที่แตกต่างกัน แน่นนอนว่าการรักษาย่อมแตกต่างกัน หากมีอาการมากจนไม่สามารถหายได้เอง ควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุของอาการ

 

問診をするJ-CLINICの中医師

 

治療計画を説明する中医師

 

ทั้งนี้การตรวจวินิจฉัยในทางการแพทย์แผนจีนจะเลือกวิธีการที่เหมาะสมกับคนไข้ การรักษาด้วยการ ฝังเข็ม รมยา ครอบแก้ว และยาจีน ทั้งนี้ทั้งนั้นในการรักษาขึ้นอยู่กันความเหมาะสมและอาการ โดยแพทย์จีนจะวินิจฉัยประเมินอาการคนไข้และเลือกรักษาวิธีตามความเหมาะสมกับกลุ่มอาการของแต่ละบุคคล

 

 

ตัวอย่างกรณีศึกษาผู้ป่วยรักษาอาการมือ-เท้าเย็น

ชื่อ: คุณ S

เพศ: หญิง อายุ: 33

ประวัติการเจ็บป่วย/โรคประจำตัว: ปฏิเสธ

冷房のきいた部屋で寒がっている女性

  • อาการหลัก: แขน-ขาเย็นเรื้อรัง

  • คนไข้มาด้วยอาการแขน-ขาเย็น เป็นมาเรื้อรัง มักมีอาการเย็นที่ฝ่ามือฝ่าเท้าเป็นหลัก มีอาการตลอดเวลาโดยเฉพาะเจออากาศเย็นหรืออยู่ในห้องแอร์นาน ร่วมกับ

  • อาการปวดท้องประจำเดือน มักมีอาการปวดมากก่อนช่วงรอบเดือนมา สีเข้ม (ต้องรับประทานยาลดปวด อาการจึงจะทุเลาลง) นอนไม่ดี ฝันเยอะ ตื่นเช้ามาไม่สดชื่น

  • เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย เครียดจากงาน ท้องเสียง่าย

  • การตรวจร่างกาย: ลิ้นแดง ฝ้าบาง ชีพจรลื่นเบา

  • การวินิจัย: มือ-เท้าเย็น (手足厥冷) : กลุ่มอาการพลังหยางชี่พร่อง(阳虚)

 

วิธีการรักษา: รักษาด้วยการฝังเข็มและรมยา

จุดฝังเข็ม

จุดหลัก: (บำรุงไตและเสริมพลังหยาง )百合,命门,气海,关元,内关,太溪。 จุดเสริม: (เน้นปรับสมดุลอวัยวะภายในและเพิ่มการไหลเวียนชี่เลือด) 肺俞, 心俞, 肝俞, 隔俞, 脾俞, 胃俞,肾俞, 足三里, 三阴交。

 

患者様の背中に箱灸を載せて、背中の上の方を棒灸を使って施術している中医師
จุดรมยา: 涌泉 ,太溪, 足三里, 三阴交, 气海, 命门。

 

ผลการรักษา: หลังจากรักษาด้วยการฝังเข็มและรมยา อาการคนไข้เริ่มดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่มารักษา อาการมือ-เท้าเย็นค่อยๆลดลง แต่ยังเห็นผลไม่ชัดเจนในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก หลังจากมารักษาต่อเนื่องจนครบ 1 เดือนอาการมือ-เท้าเย็นลดลงมาก คนไข้รู้สึกได้ชัด
และอาการปวดท้องประจำเดือนก็พบว่าดีขึ้นมากไม่ต้องรับประทานยาลดปวดอาการสามารถทุเลาลงได้ ในช่วงแรกทำการรักษา 1 ครั้ง / สัปดาห์ หลังรักษาอาการดีขึ้นปรับการรักษาเป็นเดือนละ 1-2 ครั้ง เน้นการปรับสมดุลร่างกายและเพิ่มการไหลเวียนพลังชี่และเลือด
ในเคสนี้เนื่องจากคนไข้มีอาการมานาน จึงต้องใช้ระยะเวลาในการรักษา และคนไข้มารักษาต่อเนื่องเป็นเวลา 3 เดือน อาการมือ-เท้าเย็นค่อยๆดีขึ้น จนปัจจุบันแทบไม่มีอาการมือ-เท้าแล้ว

 

薬膳スープとジンジャーティーと靴下を履いている足

 

นอกจากนี้มีการแนะนำให้คนไข้แช่เท้าด้วยน้ำอุ่นก่อนนอนเพื่อเพิ่มพลังหยาง เพิ่มการไหลเวียนพลังชี่และเลือด แนะนำทานอาหารที่เหมาะสมกับร่างกายด้วยการทานน้ำขิง ซุปไก่ตุ้นยาจีน และก่อนนอนให้สวมถุงเท้าเพื่อเพิ่มความอบอุ่น ไม่ให้มือ-เท้าสัมผัสอากาศเย็นโดยตรง

 

初診に関するよくある質問|J-CLINIC鍼灸漢方科

 

Other our blogs

 

สามารถทำการนัดหมายได้โดยการส่งไลน์หรือโทรไปที่คลินิกสาขาที่สะดวก โดยจะมีพนักงานชาวไทยจะเป็นผู้ดำเนินการรับเรื่องค่ะ

  • สาขาพร้อมพงษ์:097-257-3577

  • สาขาทองหล่อ:084-424-1299

  • สาขาเอกมัย:097-245-7863

 

J-CLINIC Phrom phong Line Account
สาขาพร้อมพงษ์

 

J-CLINIC Thonglor Line Account
สาขาทองหล่อ

 

Ekkamai Line Account
สาขาเอกมัย

 

 

(日本語) お肌のくすみ、たるみに効果がある美容鍼の技術を勉強する|J-CLINIC鍼灸漢方科

Sorry, this entry is only available in 日本語.

บทความเต้านมอักเสบอุดตัน หลังหยุดให้นมลูก|J-CLINIC การรักษาทางศาสตร์แพทย์แผนจีน

 

คุณแม่หลายท่านมักมีปัญหาหลังต้องหยุดให้นมบุตร มีอาการเจ็บตึงเต้านม มีก้อนแข็งกดแล้วเจ็บ

 

乳房で乳腺炎がおきているイラスト
เนื่องจากต่อมน้ำนมยังผลิตน้ำนมอยู่ จึงอาจมีน้ำนมคั่งค้างอยู่ในเต้านม

 

ทำให้กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะทำอะไรก็รู้สึกเจ็บ ตึง และไม่สบายตัว หากไม่ได้รับการรักษาดูแลอย่างถูกวิธี อาการคัดตึงและเจ็บหน้าอกจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยอาการเหล่านี้สามารถบรรเทาลงได้จากการรักษาที่ถูกวิธี และการดูแลตัวเองอย่างถูกหลัก วันนี้เราจึงมีเคสกรณีศึกษา

 

ตัวอย่างมาแชร์ให้เหล่าคุณแม่ที่มีอาการดูเป็นตัวอย่างนะคะ

 

ข้อมูลผู้ป่วย

胸を痛そうに抑える女性

 

คุณ A อายุ 35
อาการ เจ็บตึงเต้านม มา 1 สัปดาห์หลังหยุดให้นมลูก มีอาการเจ็บคัดตึงเต้านมทั้ง 2 ข้าง ข้างซ้ายมากกว่า มีก้อนตึงแข็งบริเวณฐานนมด้านข้าง เจ็บตลอดเวลา ตอนนี้ยังมีอาการเจ็บชัดเจนแต่น้อยลงกว่า 3 วันแรก และยังมีน้ำนมไหลอยู่บ้าง บางครั้งเจ็บมากๆ มีบีบน้ำนมออกเองบ้าง ไม่มีไข้ เจ็บจนนอนไม่หลับ

 

อาการของคนไข้แสดงให้เห็นว่า เกิดจากการที่มีน้ำนมเก่าคั่งค้างในเต้านม โดยไม่ได้ระบายน้ำนมออกเท่าที่ควร จึงทำให้เกิดการติดขัดของการไหลเวียนเลือด เกิดการอักเสบของเต้านมตามมาโดยจะมีอาการคัดตึงเต้านม เมื่อคลำเต้านมจะแข็งตึง กดจะรู้สึกเจ็บและปวดไปทั่วบริเวณเต้านม

 

ในการรักษาจะเน้นการฝังเข็มปรับการไหลเวียนเลือด และนวดคลายก้อนแข็งบริเวณรอบๆฐานเต้านม เพื่อขับนมที่คั่งค้างอยู่ภายในออกในปริมาณหนึ่ง ร่วมกับการให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองภายหลังการรักษา

 

ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนมารักษา

 

การรักษา

  • ฝังเข็มรอบเต้านม และบริเวณก้อนแข็ง
  • นวดคลายเต้านม เน้นบริเวณที่มีก้อนแข็ง นวดจนก้อนแข็งนิ่มตัวลง

 

ผลการรักษา

  • หลังรักษาครั้งที่ 1

คนไข้ไม่มีระบม ไม่มีคัดตึงเต้านมระหว่างสัปดาห์ และไม่มีน้ำนมไหลแล้ว แต่ยังมีก้อนแข็งที่ฐานนมด้านข้างอยู่

  • หลังรักษาครั้งที่ 2

จึงเน้นเป็นการคลายก้อนที่ยังเหลืออยู่ แต่ไม่เน้นการขับน้ำนมออก เพื่อเป็นการไม่กระตุ้นต่อมน้ำนมให้สร้างน้ำนมเพิ่ม

 

การนัดหมายคนไข้

  • กรณีอาการหนัก หลังรักษายังเหลือก้อน หรือยังเจ็บอยู่ จะนัดเข้ามาเช็คและรักษาอาการที่ยังหลงเหลืออยู่ในสัปดาห์ต่อไป
  • กรณีอาการเบา ถึงปานกลาง หลังรักษาอาการดีขึ้นมาก ไม่เหลือก้อนแข็ง หรืออาการเจ็บแล้วก็จะจบการรักษา ไม่ได้นัดต่อ

 

วิธีบรรเทาอาการคัดตึงเต้านมหลังลูกหย่านม

  • ปั๊มนมออกจากเต้าด้วยมือหรือที่ปั๊มนมจนกว่าจะรู้สึกคัดตึงเต้านมน้อยลง แต่ไม่ควรปั๊มนมออกมามากเกินไปและไม่ควรกระตุ้นหัวนม เพราะอาจยิ่งกระตุ้นให้ต่อมน้ำนมผลิตน้ำนมออกมา และทำให้หย่านมได้ช้าลง

 

  • สวมชุดชั้นในที่สวมใส่สบาย พอดีกับสรีระ ไม่หลวมเกินไปหรือรัดแน่นจนรู้สึกอึดอัด

 

  • ใช้แผ่นเจลเย็นประคบบริเวณเต้านมที่ปวดบวมเพื่อบรรเทาอาการ

 

  • หมั่นสำรวจบริเวณเต้านมอยู่เสมอ หากพบว่ามีรอยแดงหรือมีก้อนที่สัมผัสแล้วเจ็บ อาจเป็นสัญญาณของภาวะเต้านมอักเสบ (Mastitis) ควรไปพบคุณหมอทันที

 

 

คุณแม่ที่กำลังหยุดให้นมบุตร หากมีอาการเจ็บตึงเต้านมไม่หาย ให้หมั่นสังเกตและดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี หากอาการคัดตึงและเจ็บหน้าอกเป็นมากขึ้น แนะนำให้เข้ามาปรึกษาคุณหมอเพื่อที่จะได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีและทันท่วงทีค่ะ

 

Other our blogs

 

初診に関するよくある質問|J-CLINIC鍼灸漢方科

 

สามารถทำการนัดหมายได้โดยการส่งไลน์หรือโทรไปที่คลินิกสาขาที่สะดวก โดยจะมีพนักงานชาวไทยจะเป็นผู้ดำเนินการรับเรื่องค่ะ

  • สาขาพร้อมพงศ์:097-257-3577

  • สาขาทองหล่อ:084-424-1299

  • สาขาเอกมัย:097-245-7863

 

J-CLINIC Phrom phong Line Account
J-CLINIC Phrom phong Line Account

 

J-CLINIC Thonglor Line Account
J-CLINIC Thonglor Line Account

 

Ekkamai Line Account
J-CLINIC Ekkamai Line Account

 

(日本語) 断乳・卒乳後に起きる乳腺炎を鍼で治療する|J-CLINIC鍼灸漢方科

Sorry, this entry is only available in 日本語.

(日本語) インピンジメント症候群治療の勉強とポケトークを使った問診練習|J-CLINIC

Sorry, this entry is only available in 日本語.

(日本語) スタッフの地元ノーンカーイ県で治療体験会を開催|J-CLINIC ボランティア活動

Sorry, this entry is only available in 日本語.

(日本語) 腰痛、臀部の痛み、下肢の痛みや痺れを鍼で治療する練習|J-CLINIC鍼灸漢方科

Sorry, this entry is only available in 日本語.

(日本語) 腰痛、腰臀部痛、仙腸関節痛に効果的な鍼治療を勉強する|J-CLINIC鍼灸漢方科

Sorry, this entry is only available in 日本語.