(日本語) 腰痛、臀部の痛み、下肢の痛みや痺れを鍼で治療する練習|J-CLINIC鍼灸漢方科
(日本語) 急性腰痛やヘルニアの後遺症、坐骨神経痛に効く仙腸関節の鍼治療を勉強する|J-CLINIC理学療法科
(日本語) 坐骨神経痛、慢性腰痛にマッサージガンを使った効果的な治療を勉強する|J-CLINIC理学療法科
(日本語) 腰痛、腰臀部痛、仙腸関節痛に効果的な鍼治療を勉強する|J-CLINIC鍼灸漢方科
(日本語) 腰痛の原因となる腸腰筋の緊張を緩める手技療法を練習する|J-CLINIC理学療法科
(日本語) 五十肩と腰痛の整形外科的テスト、問診、治療法を勉強する|J-CLINIC 理学療法科・鍼灸漢方科
รักษาอาการปวดบริเวณหลัง โดยเน้นครอบแก้วเพื่อคลายกล้ามเนื้อ ร่วมกับการทำกายภาพ|J-CLINIC
ครอบแก้ว หรือ Cupping therapy เป็นหนึ่งในวิธีบำบัดโรคของศาสตร์การแพทย์แผนจีนซึ่งค้นพบมานานหลายพันปี ในสมัยก่อนเริ่มต้นจากการนำอุปกรณ์ง่าย ๆ ที่มีอยู่รอบตัวมาประยุกต์ใช้ ได้แก่ กระบอกไม้ไผ่ ต่อมาจึงค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นอุปกรณ์ที่มีความปลอดภัยและใช้ได้สะดวกมากขึ้น ได้แก่ ถ้วยหรือชามกระเบื้อง จนพัฒนามาเป็นแก้วหรือถ้วยพลาสติกที่ใช้สำหรับครอบแก้วโดยเฉพาะดังที่ใช้กันในปัจจุบัน
โดยแพทย์จะนำคีมคีบสำลีชุบแอลกอฮอล์มาจุดไฟ วนเข้าไปในถ้วยแก้วที่ใช้สำหรับครอบเพื่อให้เกิดสุญญากาศ จากนั้นจะรีบนำถ้วยแก้ววางบนตัวผู้ป่วยในบริเวณที่ต้องการครอบแก้วเพื่อรักษาโรค โดยทั่วไปจะเป็นบริเวณที่มีกล้ามเนื้อหรือมีอาการปวด เช่น บ่า ไหล่ หลัง ต้นแขน ต้นขา เป็นต้น แก้วจะดูดผิวหนังบริเวณนั้นให้ตึง ทิ้งแก้วไว้ประมาณ 5-10 นาทีจึงดึงแก้วออก
จะพบว่าบริเวณที่แก้วดูดนั้นจะมีลักษณะเป็นรอยจ้ำเป็นสีที่ต่างกัน ตั้งแต่สีชมพูอมแดง แดง ไปจนถึงดำคล้ำ ซึ่งจะบ่งบอกถึงลักษณะร่างกายและอาการของผู้ป่วยที่แตกต่างกันออกไปด้วย
-
ถ้ามีรอยสีชมพูอ่อน แสดงว่า ร่างกายสุขภาพดี เลือดลมไหลเวียนดี
-
ถ้ามีรอยสีแดงอมม่วง แสดงว่า ร่างกายมีความร้อนชื้นสะสม อ่อนล้า ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
-
ถ้ามีรอยสีดำคล้ำ แสดงว่า ปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง เลือดลมติดขัด หรือเลือดคั่งบริเวณนั้นได้
-
ถ้ามีรอยสีเนื้อขาวซีดอ่อน แสดงว่า เลือดและลมปรานอยู่ในระดับพร่อง พลังในร่างกายน้อยกว่าปกติ
-
ถ้ามีรอยสีแดงมีจุดสีม่วงกระจายอยู่ แสดงว่า พลังชี่ติดขัดหรือมีเลือดคั่งบริเวณนั้น ความเย็นสะสมภายในร่างกาย
ทางการแพทย์แผนจีน การครอบแก้วช่วยทำให้เลือดลมไหลเวียนสะดวก กำจัดพิษ (ซึ่งก็คือเลือดคั่งที่ปลายเส้นเลือดฝอย หรือความร้อนที่อยู่ในร่างกาย) ความร้อนจากไฟที่ใช้ไล่อากาศในแก้วให้อยู่ในสภาวะสุญญากาศจะช่วยอุ่นลมปราณให้ไหลเวียนได้คล่องขึ้น เมื่อเลือดและลมปราณไหลเวียนได้ดี อาการปวดหรืออาการเจ็บป่วยนั้นก็จะทุเลาลงหรือหายไปด้วยเช่นกัน
ครอบแก้วในทางวิทยาศาสตร์?
ในทางวิทยาศาสตร์สามารถอธิบายหลักการของการครอบแก้วได้ว่า เมื่อกล้ามเนื้อตึงหดเกร็งไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม จะทำให้เราเกิดอาการปวดกล้ามเนื้อ ที่หดเกร็งนี่เองจะไปบีบรัดให้เส้นเลือดฝอยเล็ก ๆ ใต้ผิวหนังบริเวณนั้นไหลเวียนเลือดไม่สะดวกและเกิดเลือดคั่ง (blood clot) ที่ส่วนปลายของเส้นเลือดฝอย
การครอบแก้วใช้หลักการทางสุญญากาศดูดให้ผิวหนังตึง ซึ่งจะทำให้เส้นเลือดฝอยเล็ก ๆ ที่มีเลือดคั่งเหล่านั้นแตกออกเพื่อปรับความดันในเส้นเลือดฝอย เลือดที่เคยคั่งอยู่จะไหลไปอยู่ใต้ผิวหนัง ทำให้เราเห็นเป็นรอยจ้ำแดง ๆ เลือดจากบริเวณอื่นก็จะไหลเวียนมาแทนที่ ส่งผลให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น รอยแดงเหล่านี้จะถูกร่างกายกำจัดออกผ่านกระบวนการกำจัดของเสีย ส่วนเส้นเลือดฝอยที่แตกนั้นร่างกายก็สามารถซ่อมแซมตัวเองได้เช่นกัน
หลังครอบแก้วควรปฏิบัติตนอย่างไร?
ตามปกติหลังครอบแก้วผู้ป่วยจะรู้สึกเมื่อยเล็กน้อยบริเวณที่มีรอยจ้ำสีแดง แต่ถ้าหากเราสัมผัสลมเย็นหรือน้ำเย็นทันทีหลังครอบแก้วจะเป็นการหยุดเลือดแทนที่จะให้มันไหลเวียนปรับสภาพไปตามธรรมชาติ เลือดที่รอยจ้ำเหล่านี้ก็จะคั่งหนักกว่าเดิม จากที่จะหายปวดกลับกลายเป็นปวดมากขึ้น ฉะนั้นเมื่อครอบแก้วแล้วไม่ควรอาบน้ำหรือตากลมเย็นทันที ควรทิ้งระยะเวลาไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมงจึงค่อยอาบน้ำ อย่าลืมจิบน้ำอุ่น ๆ เพื่อกระตุ้นให้เลือดและลมปราณไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้นด้วยหลังจากครอบแก้ว 5-7 วัน รอยจ้ำรอยแดงเหล่านี้ก็จะค่อย ๆ หายไปในที่สุด
การครอบแก้วเหมาะกับผู้ที่มีอาการปวดบริเวณต่าง ๆ ตามร่างกาย เช่น ปวดต้นคอ บ่า ไหล่ เอว หลัง เป็นต้น นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้ที่เป็นหวัดในระยะเริ่มแรก นอนไม่หลับ หรือผู้ที่ต้องการปรับสมดุลทั่วไปของร่างกายอีกด้วย ผู้ที่ไม่ควรได้รับการรักษาด้วยการครอบแก้ว ได้แก่ ผู้ป่วยมะเร็ง โรคผิวหนังติดเชื้อ อ่อนเพลีย หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยวัยชรา ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์แผนจีนก่อนครอบแก้วทุกครั้ง เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ป่วยนั่นเอง
การครอบเเก้วสามารถรักษาได้ทั้งโรคทางอายุรกรรมและอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ถ้าคนไข้มาด้วยอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ทางเจคลินิกจะมีการเช็คกล้ามเนื้อ เช็คท่าทางการเดินยืน นั่ง เดิน เพื่อเลือกการรักษาที่เหมาะสม โดยบางเคสเราจะใช้การครอบแก้วร่วมกับการทำกายภาพเพื่อให้อาการปวดเมื่อยถูกรักษาจากต้นเหตุเเละลดการกลับมาเป็นซ้ำ
เคสตัวอย่างผู้ป่วย
รักษาอาการปวดบริเวณหลัง โดยเน้นครอบแก้วเพื่อคลายกล้ามเนื้อ ร่วมกับการทำกายภาพ
คุณ A เพศชาย อายุ 38 ปี รักษาทั้งหมด 9ครั้ง โดยรักษาติดต่อกันสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
โดยปกติคนไข้ออกกำลังกายโดยสม่ำเสมอ ลักษณะการออกกำลังกายคือ การยกเวท เดิน ทำให้มีการใช้กล้ามเนื้อที่มากเกินไปและทำให้เกิดการอาการบาดเจ็บ
อาการ : กล้ามเนื้อบริเวณหลังค่อนข้างตึง จะรู้สึกเจ็บมากบริเวณช่วงเอวและสะโพก โดยเฉพาะช่วงที่มีการออกกำลังกายและเวลาเดิน


หลังการรักษา : กล้ามเนื้อค่อนข้างนิ่มลง มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เวลาออกกำลังกายหรือเดินไม่รู้สึกเจ็บ
การแนะนำหลังการรักษา : สอนท่าทางการเดินที่ถูกต้อง และการใช้ massage ball บริเวณจุดกดเจ็บเพื่อคลายกล้ามเนื้อ
จากรูปจะเห็นว่าครั้งแรกในการรักษา สีรอยครอบแก้วที่ปรากฎค่อนข้างสีดำคล้ำ แสดงให้เห็นถึงของอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง เลือดลมติดขัด เลือดคั่งบริเวณนั้น หลังจากที่รักษาอย่างต่อเนื่องโดยสัปดาห์ละ 1ครั้ง ติดต่อกัน 9 สัปดาห์ สีของรอยครอบแก้วค่อยๆจากลง ซึ่งสีที่จางลงนั้นจะเห็นได้ชัดตั้งเเต่หลังการรักษาครั้งแรก เนื่องจากกล้ามเนื้อคลายตัว ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นและส่งผลให้บาลาซน์ช่วงลำตัวของคนไข้ก็ดีขึ้นเช่นกัน โดยสังเกตได้ชัดเจนในการรักษาครั้งที่9 ทั้งนี้คนไข้มีการออกกำลังกายและทำตามคำแนะนำอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ได้ผลการรักษาดีขึ้นเรื่อยๆในทุกๆสัปดาห์
(日本語) スタジオスキップフェスティバル11周年記念発表会で施術体験会を開催|J-CLINICの理学療法科
(日本語) 腰痛や頚椎椎間板ヘルニアなどの整形外科的テスト、治療計画、問診、治療を練習する|J-CLINIC理学療法科・鍼灸漢方科
(日本語) ぎっくり腰、五十肩、坐骨神経痛、腱鞘炎、捻挫に効果的な超音波治療|J-CLINICの理学療法科
(日本語) 頭痛、めまい、肩痛、腰痛の鍼治療の技術を練習する|J-CLINIC鍼灸漢方科
(日本語) 筋膜性疼痛症候群、腰痛、肩こりを手技療法で治療する|J-CLINIC理学療法科
(日本語) 捻挫をエコーで検査、腕の痺れや首肩の張りに効果的な手技治療を練習する|J-CLINIC理学療法科・鍼灸漢方科
(日本語) 腰痛、坐骨神経痛、梨状筋症候群の痛みを緩和する鍼治療を練習する|J-CLINIC鍼灸漢方科
FAQ
แผนกกายภาพบำบัด FAQ
รวมคำถามที่พบบ่อยก่อนนัดหมาย / รับการรักษาครั้งแรก (ดู FAQ แผนกการแพทย์แผนจีน)
ทางคลินิกได้สรุปคำถามที่พบบ่อยในการนัดหมาย เพื่อเข้ารับการรักษาของแผนกกายภาพบำบัดไว้ดังนี้ค่ะ(ดูคำถามที่พบบ่อยสำหรับการเข้ารับการรักษาของแผนกการแพทย์แผนจีนได้ที่นี่)
FAQ
การรักษาที่ J-CLINIC
Q. ที่ J-CLINIC ให้บริการการรักษาแบบไหนบ้างคะ
Q. แผนกกายภาพบำบัดของ J-CLINIC สามารถรักษาอะไรได้บ้างคะ
การนัดหมาย เวลาเปิดทำการ
Q. จำเป็นต้องทำการนัดหมายก่อนมารักษาหรือไม่คะ
Q. ขอทราบเวลาเปิดทำการของคลินิกค่ะ
Q. อยากทราบระยะเวลาโดยประมาณในการตรวจรักษาค่ะ
Q. มีบริการรักษานอกสถานที่ไหมคะ
Q. มีสิ่งผู้ป่วยต้องนำติดตัวมาในการมาพบแพทย์ครั้งแรกไหมคะ
ค่ารักษาและวิธีการชำระเงิน
Q. ค่าใช้จ่ายในการตรวจประเมินแรกเข้าประมาณเท่าไรคะ
Q. ที่คลินิกมีคูปองในการรักษาจำหน่ายไหมคะ
Q. มีส่วนลดค่าแนะนำหรือส่วนลดพิเศษสำหรับค่ารักษาไหมคะ
Q. มีสามารถชำระเงินโดยใช้บัตรเครดิตได้ไหมคะ
การใช้ประกัน
Q. ดิฉันรู้สึกปวดเอวค่ะ สามารถใช้ประกันในการรับการรักษาได้ไหมคะ
Q. สามารถใช้ประกันในการรักษาโดยการฝังเข็มได้ไหมคะ
การรักษากายภาพบำบัด
Q.กรณีที่ข้อเท้าพลิก ทาง J-CLINIC มีขั้นตอนในการตรวจและรักษาอย่างไรคะ
Q. ดิฉันขาแพลงค่ะ ต้องใช้ระยะเวลาในการรักษานานแค่ไหนคะ
Q. สามารถรับการตรวจเอ็กซเรย์ที่ J-CLINIC ได้ไหมคะ?
Q. J-CLINIC รักษาโดยการจัดกระดูกไหมคะ
การฝังเข็ม
Q. ดิฉันต้องการรักษาอาการข้อไหล่ติดโดยการฝังเข็มค่ะ ที่ J-CLINIC สามารถทำได้ไหมคะ
การรักษาสำหรับผู้ที่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์หรือหลังคลอด
Q. ตอนนี้ตั้งครรภ์ได้8เดือน มีอาการปวดเอว สามารถเข้ารับการรักษาได้ไหมคะ
หากรู้สึกไม่สบายหรือไม่ปกติหลังการรักษา
Q. ดิฉันเพิ่งรับการรักษาไป รู้สึกร่างกายอ่อนเพลียเหนื่อยล้า ดิฉันควรทำอย่างไรคะ
Q. ทางคลินิกนวดคลายให้เมื่อวานนี้ ตอนนี้เกิดรอยช้ำขึ้นที่บางจุดที่ได้รับการนวด ดิฉันควรทำอย่างไรคะ
ค่าจอดรถ
Q.ดิฉันจะไปที่คลินิกโดยรถยนต์ส่วนตัวค่ะ ที่คลินิกมีที่จอดรถไหมคะ
อื่นๆ
Q.ดิฉันสามารถพาลูกไปด้วยได้ไหมคะ
Q. เมื่ออยู่ในคลินิก สามารถถ่ายคลิปวิดีโอแล้วอัปโหลดลงโซเชียลมีเดียหรือสื่อออนไลน์ได้ไหมคะ?
การรักษาที่ J-CLINIC
Q. ที่ J-CLINIC ให้บริการการรักษาแบบไหนบ้างคะ
เรามีบริการรักษาทางกายภาพบำบัด การแพทย์แผนไทยประยุกต์ และการแพทย์แผนจีน
1. การรักษาทางกายภาพบำบัดและการรักษาทางการแพทย์แผนไทยประยุกต์
การรักษาทางกายภาพบำบัดของ J-CLINIC เป็นการรักษาโดยใช้หลักการพื้นฐานทางกายภาพบำบัด รักษาโดยการทำหัตถการร่วมกับการใช้เครื่องมือทางกายภาพบำบัดเพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีและเหมาะสมกับอาการของผู้ป่วย

2. การรักษาทางแพทย์แผนจีน
การรักษาทางแพทย์แผนจีนของ J-CLINIC ประกอบด้วย การฝังเข็ม รมยา ครอบแก้ว กัวซา และยาจีนเพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีและเหมาะสมกับอาการของผู้ป่วย

Q. แผนกกายภาพบำบัดของ J-CLINIC สามารถรักษาอะไรได้บ้างคะ
เรารักษาอาการเจ็บที่เกี่ยวกับระบบกล้ามเนื้อและการบาดเจ็บของเส้นเอ็น เช่น ปวดหลัง, ข้อไหล่ติด, ปวดเข่า, ปวดศีรษะ, ปวดสะโพกร้าวลงขา, ข้อเท้าพลิก, ฟื้นฟูหลังการผ่าตัด, บาดเจ็บจากการเล่นกีฬาและอุบัติเหตุ เป็นต้นค่ะ
การนัดหมาย เวลาเปิดทำการ
Q. จำเป็นต้องทำการนัดหมายก่อนมารักษาหรือไม่คะ
ใช่ค่ะ รบกวนทำการนัดหมายก่อนเข้ารับการรักษาค่ะ
สามารถทำการนัดหมาย โดยการส่งไลน์หรือโทรศัพท์ไปที่คลินิกสาขาที่สะดวก จะมีพนักงานชาวไทยจะเป็นผู้ดำเนินการรับเรื่องค่ะ
- สาขาพร้อมพงษ์: 097-257-3577
- สาขาทองหล่อ: 084-424-1299
- สาขาเอกมัย: 097-245-7863
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
Q. ขอทราบเวลาเปิดทำการของคลินิกค่ะ
คลินิกเปิดทำการเวลา 9:00-18:30 (ฝ่ายต้อนรับ) โดยเปิดทำการทุกวันไม่มีวันหยุด ยกเว้นช่วงเทศกาลปีใหม่ค่ะ
อย่างไรก็ดี อาจมีบางวันที่คลินิกหยุดเนื่องจากมีการฝึกอบรมพนักงาน ทางคลินิกจะแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับวันหยุดนี้ทาง Facebook ของคลินิกค่ะ
Q. อยากทราบระยะเวลาโดยประมาณในการตรวจรักษาค่ะ
ระยะเวลาตรวจรักษาโดยประมาณคือ 45 นาที ถึง 1 ชั่วโมง มีขั้นตอนคือ ผู้เข้ารับการรักษากรอกแบบฟอร์มประวัติ, ซักประวัติ, เปลี่ยนเสื้อผ้า, ทำการหัตถการหรือรักษาค่ะ
ในกรณีที่มารับการรักษาเป็นครั้งแรก อาจจะใช้เวลามากกว่า 1 ชั่วโมง และในทางกลับกัน บางกรณีอาจใช้เวลาน้อยกว่า 45 นาที ขึ้นอยู่กับอาการด้วยค่ะ (เช่น ในกรณีที่ไม่ควรกระตุ้นมากจนเกินไป เป็นต้น)
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
Q. ดิฉันรู้สึกปวดเอวค่ะ สามารถใช้ประกันเพื่อเข้ารับการรักษาได้ไหมคะ
ทางคลินิกไม่มีระบบการเรียกเก็บเงินจากบริษัทประกันภัยโดยตรง ขอให้ทางผู้เข้ารับการรักษาดำเนินการเรื่องการเคลมประกันด้วยตนเอง โดยทางคลินิกสามารถออกเอกสารที่ต้องใช้ในการเคลมประกันให้ได้ค่ะ
ทั้งนี้ J-CLINIC ไม่สามารถระบุได้ว่าประกันของท่านจะครอบคลุมการรักษาหรือไม่ ขอให้ผู้เข้ารับบริการติดต่อสอบถามไปยังบริษัทประกันภัยของท่านโดยแจ้งอาการและแจ้งความประสงค์ว่าต้องการจะเข้ารับการรักษาที่แผนกกายภาพบำบัดของ J-CLINIC ค่ะ
Q. มีบริการรักษานอกสถานที่ไหมคะ
ไม่มีบริการรักษานอกสถานที่ค่ะ ขอให้คนไข้ที่ต้องการรักษามาที่คลินิกนะคะ

Q. มีสิ่งผู้ป่วยต้องนำติดตัวมาในการมาพบแพทย์ครั้งแรกไหมคะ
ในการมารักษาครั้งแรก กรุณาเตรียมบัตรประจำตัวประชาชนมาเพื่อลงทะเบียนผู้ป่วยใหม่ค่ะ

แจ้งเรื่องการขอบัตรประชาชน
เนื่องจากคลินิกของเราเป็นสถานพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนอย่างเป็นทางการกับกระทรวงสาธารณสุขของประเทศไทย เราจึงจำเป็นต้องมีการขอถ่ายสำเนาบัตรประชาชน หรือเอกสารบัตรแสดงตนที่มีรูปถ่ายอื่น ๆ ที่ออกโดยรัฐบาลไทย (เช่น ใบขับขี่ไทย เป็นต้น)
- เพื่อยืนยันตัวตนของผู้ป่วย ป้องกันการสับสนกับข้อมูลของผู้อื่น
- เพื่อจัดทำเวชระเบียนอย่างถูกต้อง จำเป็นต้องมีข้อมูลที่ถูกต้อง เช่น ชื่อ–นามสกุล และวันเดือนปีเกิด
- กรณีใช้สิทธิประกันสุขภาพ เพื่อตรวจสอบข้อมูลให้ตรงกับบัตรประกัน
ตามระเบียบของกระทรวงสาธารณสุข จำเป็นต้องเก็บข้อมูลของผู้ป่วยไว้เป็นหลักฐาน ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจะถูกเก็บรักษาอย่างปลอดภัย และจะไม่ถูกเปิดเผยแก่บุคคลภายนอกโดยไม่ได้รับอนุญาต หากท่านไม่สะดวกในการแสดงบัตรประชาชน อาจมีข้อจำกัดในการให้บริการตามระเบียบของคลินิก ขอขอบคุณสำหรับความเข้าใจและความร่วมมือค่ะ
Q. ดิฉันต้องการใบรับรองแพทย์เพื่อใช้ในการต่ออายุใบขับขี่ ทาง J-CLINIC สามารถออกใบรับรองแพทย์สำหรับต่ออายุใบขับขี่ได้หรือไม่คะ
ทาง J-CLINIC ไม่มีบริการตรวจสุขภาพเพื่อใช้ในการต่ออายุใบขับขี่หรือการขอวีซ่า จึงไม่สามารถออกใบรับรองแพทย์ตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวได้ค่ะ ทางเราจะออกใบรับรองแพทย์สำหรับผู้ที่เข้ารับการรักษาที่ J-CLINIC เท่านั้นค่ะ
ทั้งนี้ การออกใบรับรองแพทย์มีค่าใช้จ่ายค่ะ (700 บาท รวมค่าตรวจวินิจฉัยโดยแพทย์, ค่าใบรับรองแพทย์ และรายงานทางการแพทย์เบื้องต้น)
ค่ารักษาและวิธีการชำระเงิน
Q. ค่าใช้จ่ายในการตรวจประเมินแรกเข้าประมาณเท่าไรคะ
ในกรณีที่ชำระค่ารักษาเอง โดยส่วนใหญ่ค่าใช้จ่ายในการรักษาครั้งแรกจะอยู่ที่ 2,100 บาท (สำหรับ 1 อาการ) โดยแบ่งเป็นค่าตรวจประเมินร่างกายทางกายภาพบำบัดครั้งแรก 500 บาทและค่ารักษาทางกายภาพบำบัด (หัตถการ・ไฟฟ้า) 1,600 บาทค่ะ
ทั้งนี้ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ในกรณีที่มีการรักษาโดยการฝังเข็มเพิ่ม (แบบเฉพาะจุด), มีการรักษาหลายอาการหรือบาดเจ็บหลายตำแหน่ง หรือมีความจำเป็นต้องใช้ใบรับรองแพทย์เพื่อส่งให้กับบริษัทประกันภัย ดังนั้นท่านที่ต้องการทราบรายละเอียดค่าใช้จ่าย โปรดติดต่อสอบถามกับพนักงาน J-CLINIC ค่ะ
Q. ที่คลินิกมีจำหน่ายคูปองสำหรับรักษาไหมคะ
Q.มีส่วนลดค่าแนะนำหรือส่วนลดพิเศษสำหรับค่ารักษาไหมคะ
ทางคลินิกไม่มีส่วนลดค่าแนะนำสำหรับใช้ลดค่ารักษาค่ะ
- สำหรับส่วนลดพิเศษอื่นๆ ทางคลินิกได้ยุติการใช้ส่วนลดสำหรับการรักษาทางกายภาพบำบัดและศาสตร์แผนจีนตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคม พ.ศ. 2567 ค่ะ
- ประกาศ: การสิ้นสุดโปรโมชั่นแนะนำ
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
Q. สามารถชำระเงินโดยใช้บัตรเครดิตได้ไหมคะ
สามารถชำระเงินโดยใช้บัตรเครดิต (ยกเว้นบัตร American Express และ Diners Club), เงินสด หรือสแกน QR Code ค่ะ
การใช้ประกัน
Q. สามารถใช้ประกันในการรักษาโดยการฝังเข็มได้ไหมคะ
ประกันส่วนใหญ่จะไม่ครอบคลุมการรักษาโดยการฝังเข็ม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรายละเอียดเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกันภัยด้วย ทางคลินิกจึงไม่สามารถให้คำตอบที่แน่ชัดได้ว่าสามารถใช้ประกันได้หรือไม่ ขอให้ท่านติดต่อสอบถามไปที่บริษัทประกันของท่านค่ะ
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อ
การรักษากายภาพบำบัด
Q. กรณีที่ข้อเท้าพลิก ทาง J-CLINIC จะตรวจและรักษาอย่างไรบ้างคะ
ทางคลินิกขอแนะนำให้ทำการรักษาที่แผนกกายภาพบำบัด โดยจะมีขั้นตอนการตรวจและรักษาดังต่อไปนี้ค่ะ
1. ตรวจด้วยเครื่องอัลตร้าซาวด์และการใช้มือคลำ (Palpation)

2.การรักษาโดยการใช้ไฟฟ้า (การรักษาโดยใช้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า High Voltage และเครื่องอัลตร้าซาวด์)

3.การรักษาโดยการทำหัตถการ
เมื่อข้อเท้าพลิกจะเกิดการอักเสบ ส่งผลให้กล้ามเนื้อรอบๆข้อต่อนั้นเกร็งตัวเพื่อปกป้องส่วนที่บาดเจ็บ ซึ่งจะนำไปสู่อาการปวดกล้ามเนื้อ, ข้อต่อ, หรือเส้นเอ็นที่อยู่รอบๆได้ ดังนั้นจึงควรเข้ารับการรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้นค่ะ
4. การใช้ Tape (เทปพยุงกล้ามเนื้อ), Supporter

5. การให้คำแนะนำหลังการรักษา

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
- Sprained playing soccer! Ligament damage
- What if my child sprains their ankle at a trampoline park?
- การตรวจกล้ามเนื้อ, เอ็นกล้ามเนื้อ, เอ็นกระดูก, ข้อต่อ ด้วยเครื่องอัลตร้าซาวด์ (ตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง)
Q. ดิฉันขาแพลงค่ะ ต้องใช้ระยะเวลาในการรักษานานแค่ไหนคะ
ทางคลินิกจำเป็นต้องตรวจอย่างละเอียดก่อน จึงจะสามารถประเมินระยะเวลาและความถี่ในการรักษาได้ค่ะ
ขอให้ท่านติดต่อนัดหมายกับคลินิกเพื่อเข้ามาตรวจดูอาการบาดเจ็บ, การเคลื่อนไหว, ระยะองศาการเคลื่อนไหว ตลอดจนตรวจดูความลึกของอาการเจ็บปวดของท่านค่ะ
ทั้งนี้ ระยะเวลาในการฟื้นตัวของแต่ละท่านอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับพฤติกรรม, ลักษณะนิสัย, ความเคยชินในการใช้ร่างกาย และสไตล์การใช้ชีวิตค่ะ
อย่างไรก็ดี หากท่านต้องการทราบเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการพิจารณางบประมาณ กรุณาโทรมาที่คลินิก เพื่อให้ผู้รักษาได้พูดคุยสอบถามอาการของท่านทางโทรศัพท์ค่ะ
Q. เวลางอเข่า จะรู้สึกปวดบริเวณรอบๆกระดูกสะบ้าที่ข้อเข่า คุณหมอที่โรงพยาบาลแนะนำให้รักษาด้วยเครื่องอัลตราซาวด์ ถ้ามาที่คลินิก ทาง J-CLINIC สามารถรักษาโดยใช้เครื่องอัลตราซาวด์เพียงอย่างเดียวได้ไหมคะ
หากท่านมีอาการปวดบริเวณรอบๆกระดูกสะบ้าที่เข่า ทางคลินิกจะไม่รักษาโดยการทำอัลตร้าซาวน์เพียงอย่างเดียว แต่จะใช้เครื่องอัลตร้าซาวน์ร่วมกับการรักษาทางหัตถการอื่นๆค่ะ
การทำอัลตร้าซาวน์จะช่วยบรรเทาอาการปวดและเพิ่มการเคลื่อนไหวของข้อต่อ แต่ในการรักษาที่ต้นเหตุอาจจำเป็นต้องปรับการบิดของตำแหน่งต่างๆในร่างกายด้วยค่ะ
ผู้ที่มีอาการปวดบริเวณรอบๆกระดูกสะบ้าเข่า ส่วนใหญ่มักมีอาการตึงที่ข้อเท้าและข้อสะโพก (เนื่องจากข้อเข่าเป็นตำแหน่งที่อยู่ระหว่างข้อเท้าและข้อสะโพก) การรักษาทางหัตถการเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการปรับการบิดของข้อเท้าและข้อสะโพกค่ะ
Q. ขณะที่ซ้อมรักบี้ ไหล่ซ้ายของฉันถูกกระแทกอย่างแรง คิดว่าการกระแทกนั้นทำให้ข้อไหล่หลุด ในกรณีนี้สามารถมารักษาที่ J-CLINIC ได้ไหมครับ
- การตรวจ
หากคุณสงสัยว่าข้อไหล่หลุด ขอแนะนำให้ไปที่โรงพยาบาล เพื่อรับการตรวจโดยการเอ็กซเรย์ค่ะ หากแพทย์ตรวจพบว่ามีการบาดเจ็บของเนื้อเยื่ออ่อน เช่น ผิวหนัง, เนื้อเยื่อไขมัน, พังผืด, กล้ามเนื้อ, เอ็นกล้ามเนื้อ, เอ็นกระดูก, เส้นประสาท หรือหลอดเลือด อาจจำเป็นต้องตรวจเพิ่มเติมด้วยเครื่อง CT หรือ MRI
ทั้งนี้ทาง J-CLINIC ไม่มีเครื่องตรวจ CT และ MRI ค่ะ ในกรณีที่ไม่แน่ใจว่าไหล่หลุดหรือไม่ คุณสามารถมาเช็คอาการเบื้องต้นที่ J-CLINIC ได้ เรามีเครื่อง X-ray ที่สามารถช่วยตรวจหาความผิดปกติเบื้องต้นได้ หากพบว่าไหล่หลุดจริง หรือมีสิ่งผิดปกติน่าสงสัยเราจะรีบแนะนำให้คุณไปโรงพยาบาลทันที
* สามารถรับการตรวจเอ็กซเรย์ได้ที่ J-CLINIC สาขาเอกมัยค่ะ กรุณาทำการนัดหมายก่อนเข้ารับบริการค่ะ
- การรักษา
ในกรณีที่ข้อไหล่หลุด ทางโรงพยาบาลจะทำการจัดกระดูกให้ข้อที่หลุดนั้นกลับเข้าตำแหน่งเดิมหรืออาจรักษาโดยการผ่าตัด ทั้งนี้ทาง J-CLINIC ไม่ได้ทำการจัดกระดูกรวมไปถึงการผ่าตัดเพื่อรักษาข้อไหล่หลุด J-CLINIC จะดูแลรักษาคนไข้หลังจากที่คนไข้ได้ทำการจัดกระดูกให้กลับมาอยู่ในตำแหน่งเดิมหรือผ่าตัดแล้ว โดยจะดูแลในเรื่องความเจ็บปวดที่หลงเหลืออยู่, ความรู้สึกหนักๆและเมื่อยล้า, ความรู้สึกไม่ปกติหรือไม่สบายตัว และดูแลข้อไหล่ให้สามารถขยับหรือเคลื่อนไหวได้มากขึ้น นอกจากนี้ J-CLINIC จะทำการเพิ่มความยืดหยุ่นและการเคลื่อนไหวของข้อไหล่ โดยการรักษาทางหัตถการและเครื่องอัลตราซาวด์ เพื่อให้ข้อไหล่สามารถยืดและหดได้ง่ายขึ้น ทำให้การเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างราบลื่น หลังจากนั้น ทางคลินิกจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการออกกำลังกายและการดูแลตัวเอง เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อไหล่หลุดซ้ำค่ะ
Q. ขณะที่ซ้อมมวยไทย เมื่อต่อยหมัดออกไปรู้สึกเจ็บที่มือขวา มือขวามีอาการบวมแดงและเจ็บมากจนขยับไม่ได้ คิดว่าน่าจะกระดูกหัก ที่ J-CLINIC สามารถรักษาได้ไหมครับ
- การตรวจ
อาการบวมแดงและเจ็บรุนแรง อาจเกิดจากกระดูกหัก, ร้าว หรือเอ็นฉีกขาด ซึ่งต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยโดยละเอียด ดังนั้น ขอให้ท่านไปที่โรงพยาบาลเพื่อรับการตรวจ X-ray ค่ะ ถ้าตรวจแล้วพบการบาดเจ็บที่เนื้อเยื่ออ่อน อาจมีความจำเป็นต้องตรวจเพิ่มเติมด้วยเครื่อง CT หรือ MRIทั้งนี้ แม้คลินิกจะมีเครื่อง X-ray แต่ในบางกรณี อาจต้องใช้การประเมินจากแพทย์ศัลยกรรมกระดูก หรือมีความจำเป็นต้องตรวจเพิ่มเติมอย่างละเอียด ใส่เฝือก หรือ ผ่าตัด ซึ่งทาง J-CLINIC ไม่มีเครื่องมือสำหรับตรวจรักษาดังกล่าวค่ะ
- การรักษา
ทางโรงพยาบาลจะตรวจดูฝ่ามือที่กระดูกหัก จากนั้นจะทำการจัดกระดูกให้กลับมาอยู่ในตำแหน่งเดิมและยึดไว้ ในกรณีที่การจัดกระดูกทำได้ยาก แพทย์จะทำการผ่าตัด ทั้งนี้ทาง J-CLINIC ไม่ได้ทำการผ่าตัดรักษากระดูกหักรวมถึงจัดกระดูกให้กลับมาอยู่ในตำแหน่งเดิม แต่ J-CLINIC จะดูแลรักษาคนไข้หลังจากที่คนไข้ได้รับการจัดกระดูกหรือผ่าตัดแล้ว โดยจะดูแลในเรื่องความเจ็บปวดที่หลงเหลืออยู่, ความรู้สึกหนักๆและเมื่อยล้า, ความรู้สึกไม่ปกติหรือไม่สบายตัว และดูแลข้อนิ้วมือที่ขยับได้ลำบากให้สามารถขยับหรือเคลื่อนไหวได้มากขึ้น ซึ่งการรักษาหัตถการและอัลตราซาวด์จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและการเคลื่อนไหวที่กล้ามเนื้อรอบๆข้อนิ้วมือให้ดีขึ้นค่ะ
Q. สามารถรับการตรวจเอ็กซเรย์ที่ J-CLINIC ได้ไหมคะ?
ได้ค่ะ สามารถรับการตรวจเอ็กซเรย์ได้ที่ J-CLINIC สาขาเอกมัยค่ะ กรุณาทำการนัดหมายก่อนเข้ารับบริการค่ะ
- สาขาเอกมัย: 097-245-7863
- Contact form
- Ekkamai Line account

Q. J-CLINIC รักษาโดยการจัดกระดูกไหมคะ
J-CLINIC ไม่ทำการรักษาโดยการนวดจัดกระดูก เนื่องจากทางคลินิกไม่มี Chiropractor ค่ะ
แต่คลินิกสามารถทำการรักษาด้วยวิธีทางกายภาพบำบัดและแพทย์แผนไทยประยุกต์ด้วยเทคนิคการบำบัดด้วยมือ (Manual therapy) ซึ่งเป็นการรักษาด้วยเทคนิคการขยับกระดูก, ขยับข้อต่อ (Mobilization) และการดัดข้อต่อ(Manipulation) เพื่อเพิ่มการเคลื่อนไหวของข้อต่อ ทำให้การเคลื่อนไหวมีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ
การฝังเข็ม
Q. ดิฉันต้องการรักษาอาการข้อไหล่ติดโดยการฝังเข็มค่ะ ที่ J-CLINIC สามารถทำได้ไหมคะ
ในกรณีที่มีอาการข้อไหล่ติด โดยส่วนใหญ่ทางคลินิกจะไม่แนะนำให้ฝังเข็มเพียงอย่างเดียว แต่จะแนะนำให้รักษาโดยการฝังเข็มร่วมกับการรักษาทางกายภาพบำบัด (หัตถการและไฟฟ้า) ค่ะ
การฝังเข็มช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังกล้ามเนื้อที่ตึงตัวที่ทำให้เกิดอาการปวด เมื่อการไหลเวียนของเลือดดีขึ้นจะช่วยลดอาการปวดและเพิ่มองศาในการเคลื่อนไหวให้มากขึ้น แต่ในหลายกรณี อาการปวดไม่ได้เกิดจากกล้ามเนื้อตึงตัว แต่เกิดจากแกนกลางลำตัวบิดงอ ไม่ตรง ดังนั้น ทางคลินิกจึงแนะนำให้รักษาโดยการฝังเข็มร่วมกับการรักษาทางกายภาพบำบัดค่ะ
อย่างไรก็ดี ในขั้นตอนการซักประวัติ ทางคลินิกจะสอบถามลักษณะของอาการเจ็บปวด, ตรวจดูการเคลื่อนไหวและระยะองศาการเคลื่อนไหว ตลอดจนตรวจดูความลึกของอาการเจ็บปวดของท่านอย่างละเอียด จากนั้นจึงเสนอวิธีการรักษาและแผนการรักษาที่มุ่งเน้นไปยังต้นเหตุที่แท้จริงค่ะ
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
การรักษาสำหรับผู้ที่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์หรือหลังคลอด
Q. ตอนนี้ตั้งครรภ์ได้8เดือน มีอาการปวดเอว สามารถเข้ารับการรักษาได้ไหมคะ
สามารถรับการรักษาเพื่อบรรเทาอาการปวดเอวได้ โดยจะเป็นการทำหัตถการเพื่อคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อและปรับสมดุลด้านซ้ายและขวาของร่างกาย ไม่มีการกระตุ้นไฟฟ้าค่ะ
แม้ในระหว่างตั้งครรภ์ หากเป็นการรักษาที่ไม่ใช่บริเวณท้อง, เอว หรือหลังส่วนล่าง เช่น อาการปวดบ่าคอ หรืออาการบาดเจ็บที่ขา เป็นต้น คนไข้สามารถกระตุ้นไฟฟ้าเพื่อรักษาอาการปวดได้ อย่างไรก็ดี หากรู้สึกกังวล โปรดสอบถามกับสูติแพทย์ของท่าน เพื่อดูว่าจะสามารถรับการรักษาทางกายภาพบำบัดได้หรือไม่ จากนั้นจึงค่อยทำการนัดหมายค่ะ
ทั้งนี้ ผู้ที่มีกลุ่มโรคหรืออาการดังต่อไปนี้จะไม่สามารถรับการรักษาทางกายภาพบำบัดที่ J-CLINIC ได้(สำหรับข้อห้ามในการฝังเข็ม โปรดดูคำถามที่พบบ่อยในการนัดหมายเพื่อเข้ารับการตรวจประเมินแรกเข้าของแผนกการแพทย์แผนจีน)
วิธีการรักษา | ข้อห้าม |
การนวดหัตถการ | โรคไข้เฉียบพลัน*1, โรคติดเชื้อเฉียบพลัน, เนื้องอกมะเร็ง*2, เยื่อบุช่องท้องอักเสบ, ไส้ติ่งอักเสบ, โรคเลือดออกผิดปกติ, การบาดเจ็บ*3 (บาดแผล, กระดูกหัก, ข้อกระดูกเคลื่อน), ไตอักเสบ, โรคหลอดเลือด (หลอดเลือดโป่งพอง, หลอดเลือดแข็งสูง), โรคเลือด (ฮีโมฟีเลีย, การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ), แผลติดเชื้อ, ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดเฉียบพลัน |
การกระตุ้นด้วยไฟฟ้า(Ultrasound, EMS, Interference) | เนื้องอกมะเร็ง*2, การสวมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ฝังได้ เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจ, ประวัติอาการลมชัก, ผู้ที่ตั้งครรภ์*4, มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ, มีภาวะการรับรู้ความรู้สึกบริเวณผิวหนังบกพร่อง, แผลติดเชื้อ, ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดเฉียบพลัน, การบาดเจ็บ*3 (บาดแผล, กระดูกหัก, ข้อกระดูกเคลื่อน) |
หมายเหตุ
*1. ผู้ป่วยที่มีไข้จากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสที่มีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 38.5 ° C ไม่สามารถเข้ารับการรักษาได้ กรณีอื่นๆ เช่น มีไข้จากความเครียดหรือการทํางานหนักอาจเข้ารับการรักษาได้ กรุณาปรึกษาแพทย์
*2. การรักษาเป็นการกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและน้ำเหลืองจึงมีโอกาสเพิ่มความเสี่ยงที่มะเร็งจะแพร่กระจายได้
*3. สามารถนวดหัตถการและกระตุ้นด้วยไฟฟ้าบริเวณอื่นที่ไม่ใช่จุดบาดเจ็บได้
*4. ผู้ที่ตั้งครรภ์เมื่อผ่านไตรมาสแรก (1-3เดือน) แล้ว สามารถนวดหัตถการบริเวณอื่นที่ไม่ใช่บริเวณหน้าท้องและเอวได้
ผู้ป่วยที่มีประวัติความดันโลหิตสูงหรือต่ำเกินไปและผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว กรุณาแจ้งแพทย์หรือผู้ทำหัตถการก่อนเริ่มการรักษา หรือหากท่านมีข้อกังวลอื่นใดเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วย กรุณาปรึกษาแพทย์ผู้รักษา
หากรู้สึกไม่สบายหรือไม่ปกติหลังการรักษา
Q. เพิ่งรับการรักษาไป รู้สึกร่างกายอ่อนเพลียเหนื่อยล้า ดิฉันควรทำอย่างไรคะ
หลังจากได้รับการนวดหรือกระตุ้นไฟฟ้า คนไข้อาจมีอาการต่างๆ เช่น เหนื่อยล้า, ง่วงนอน และมีไข้ได้ เนื่องจากการนวดหัตถการหรือการใช้เครื่องมือทางกายภาพบำบัดบริเวณกล้ามเนื้อชั้นลึกเป็นการกระตุ้นกล้ามเนื้อที่แข็งเกร็ง และมีไหลเวียนเลือดที่ไม่ดี หลังจากกระตุ้น จะเกิดปฏิกิริยาการฟื้นฟูของร่างกายทำให้การไหลเวียนเลือดและน้ำเหลืองดีขึ้น ของเสียและสารเมื่อยล้า (กรดแลคติก) จะถูกปล่อยออกมาอย่างรวดเร็วในครั้งเดียว จึงทำให้มีอาการดังกล่าวได้ หากเกิดปฏิกิริยานี้ ให้พยายามลดการใช้งานของกล้ามเนื้อ, ดื่มน้ำ และพักผ่อนร่างกายให้เพียงพอ จากนั้นร่างกายจะค่อยๆฟื้นตัวตามธรรมชาติค่ะ
Q. ทางคลินิกนวดคลายให้เมื่อวานนี้ ตอนนี้รู้สึกปวดกล้ามเนื้อในบางจุดที่ได้รับการนวด ดิฉันควรทำอย่างไรคะ
การรักษาหัตถการเพื่อลดอาการ อาจจำเป็นต้องนวดให้ถึงกล้ามเนื้อชั้นลึก จึงส่งผลให้รู้สึกปวดกล้ามเนื้อหลังจากรับการรักษาได้ ทั้งนี้ อาการปวดนี้จะค่อยๆหายไปเองภายใน3-4วัน จึงไม่ต้องเป็นกังวล
อย่างไรก็ดี หากผู้ป่วยรู้สึกถึงน้ำหนักการนวดที่แรงเกินไปในระหว่างการรักษา กรุณาแจ้งกับทางผู้รักษาเพื่อปรับน้ำหนักให้เบาลงค่ะ
Q. ทางคลินิกนวดคลายให้เมื่อวานนี้ ตอนนี้เกิดรอยช้ำขึ้นที่บางจุดที่ได้รับการนวด ดิฉันควรทำอย่างไรคะ
ผู้ป่วยที่มีเส้นเลือดฝอยบอบบาง แรงกระตุ้นจากการนวดอาจทำให้เส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังแตกและมีเลือดสะสมอยู่ใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นเกิดเป็นรอยช้ำขึ้น
รอยช้ำนี้จะหายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์ หากท่านต้องการให้หายเร็วขึ้น ท่านสามารถประคบเย็นที่รอยช้ำในวันนั้นหรือภายในวันรุ่งขึ้นค่ะ
ค่าจอดรถ
Q. ดิฉันจะไปที่คลินิกโดยรถยนต์ส่วนตัวค่ะ ที่คลินิกมีที่จอดรถไหมคะ
คลินิกมีที่จอดรถค่ะ ท่านที่เดินทางมาใช้บริการโดยรถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์สามารถนำบัตรจอดรถมาประทับตราที่คลินิกเพื่อยืนยันการใช้บริการ หากท่านจอดรถเกินระยะเวลาที่กำหนด จะมีค่าบริการจอดรถแตกต่างกันไปตามข้อกำหนดของอาคารนั้นๆค่ะ (กรุณาดูรายละเอียดค่าจอดรถด้านล่าง)
สาขาพร้อมพงษ์ (อาคาร RSU Tower ชั้น4, ปากซอยสุขุมวิท 31)
รถยนต์
-
-
- ชั่วโมงละ 40 บาท (จอดฟรี 20 นาทีแรก)
- ประทับตราคลินิก 1 ดวง จอดฟรี 2 ชั่วโมง หลังจากนั้นชั่วโมงละ 40 บาท
- สำหรับการรักษา 2 sessions ประทับตราคลินิก 2 ดวง จอดฟรี 4 ชั่วโมง
-
รถมอเตอร์ไซค์
-
-
- จอดฟรี 20 นาทีแรก หลังจากนั้นจะมีค่าจอดรถ 20 บาท (จอดได้ตลอดวัน)
- ตราประทับจากคลินิก ไม่มีผลใดๆต่อการระยะเวลาจอดรถจักรยานยนต์
ทุกกรณี หากมีการจอดเกิน 20 นาที จะมีการเรียกเก็บค่าจอดรถ 20 บาท
-
สาขาทองหล่อ (อาคาร Home Place ชั้น B1, ทองหล่อ ซอย 13)
รถยนต์
-
-
- ชั่วโมงละ 50 บาท
- ประทับตราคลินิก 1 ดวง จอดฟรี 4 ชั่วโมง หลังจากนั้นชั่วโมงละ 30 บาท
- สำหรับการรักษา 2 sessions แต่ยังอยู่ในระยะเวลา 4 ชั่วโมง ทางคลินิกจะประทับตรา 1 ดวง
-
รถมอเตอร์ไซค์
-
-
- ท่านสามารถแจ้งกับพนักงานรักษาความปลอดภัยของอาคารว่ามาใช้บริการที่อาคาร จะสามารถจอดได้ฟรี โดยไม่จำกัดจำนวนชั่วโมงและไม่ต้องมีตราประทับ
- ไม่รับฝากจอดรถ กรณีที่ออกไปทำธุระที่อื่น
-
สาขาเอกมัย (อาคาร Bangkok Mediplex ชั้น 3, ปากซอยสุขุมวิท 42)
รถยนต์
-
-
- ชั่วโมงละ 40 บาท (จอดฟรี 15 นาทีแรก)
- ประทับตราคลินิก 1 ดวง จอดฟรี 3 ชั่วโมง หลังจากนั้นชั่วโมงละ 40 บาท
- ไม่สามารถประทับตรา 2 ดวงได้
-
รถมอเตอร์ไซค์
-
-
- หากใบสีชมพูมีประทับตราจากทางคลินิกหรือนิติบุคคล สามารถจอดฟรีตลอดทั้งวัน
- ไม่รับฝากจอดรถ กรณีที่ออกไปทำธุระที่อื่น
-
อื่นๆ
Q. จำเป็นต้องให้ทิปหรือเปล่าคะ
ทางเราเป็นคลินิกจึงไม่มีการรับทิปค่ะ แม้ท่านต้องการจะให้ทิปกับทางเรา ทางเราจะขอปฏิเสธที่จะรับทิปจากท่านค่ะ

Q. ดิฉันสามารถพาลูกไปด้วยได้ไหมคะ
J-CLINIC ทั้ง 3 สาขาจะมีห้องเฉพาะสำหรับท่านที่มีเด็กทารกหรือเด็กเล็กมาด้วยค่ะ กรุณาแจ้งทางคลินิกตอนที่ทำการนัดหมายได้เลยค่ะ (ห้องนี้จะต้องจองล่วงหน้าค่ะ)

Q. เมื่ออยู่ในคลินิก สามารถถ่ายคลิปวิดีโอแล้วอัปโหลดลงโซเชียลมีเดียหรือสื่อออนไลน์ได้ไหมคะ?
ไม่สามารถทำได้ค่ะ ทางคลินิกไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ บันทึกเสียงและวิดีโอภายในคลินิกค่ะ

เรื่อง การถ่ายภาพ บันทึกเสียง และวิดีโอภายใน J-CLINIC
เพื่อคุ้มครองความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้รับบริการ รวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกท่าน J Clinic ขอความร่วมมือ งดการถ่ายภาพ บันทึกเสียง และวิดีโอ ภายในคลินิกโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ ห้ามเผยแพร่ภาพถ่ายหรือวิดีโอที่มีบุคคลอื่นปรากฏอยู่บนสื่อสังคมออนไลน์ หากไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อนล่วงหน้า
กรณีที่อนุญาตให้สามารถบันทึกภาพได้
การถ่ายภาพ บันทึกเสียง หรือวิดีโอภายในคลินิก จะได้รับอนุญาตเฉพาะในกรณีดังต่อไปนี้:
- เมื่อได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษจากคลินิก เพื่อวัตถุประสงค์ที่เหมาะสม
- ขณะบันทึกคำอธิบายจากแพทย์หรือนักกายภาพบำบัด เกี่ยวกับอาการหรือแผนการรักษาของผู้รับบริการ(ต้องขออนุญาตเจ้าหน้าที่ก่อนเริ่มบันทึก)
- ขณะถ่ายภาพผู้รับบริการร่วมกับสมาชิกในครอบครัวของตนเอง
- เมื่อเป็นการถ่ายภาพโดยเจ้าหน้าที่คลินิก เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ หรือเพื่อการประชาสัมพันธ์ของคลินิก ภายใต้ความยินยอมของผู้ที่เกี่ยวข้อง
หมายเหตุสำคัญ
- กรุณาตรวจสอบให้แน่ใจว่า ภาพถ่ายหรือวิดีโอที่บันทึกไว้ ไม่มีภาพหรือข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับบริการท่านอื่น โดยไม่ได้รับอนุญาต
- หากมีการร้องเรียนจากผู้รับบริการรายอื่นด้วยเหตุผลอันสมควร ทางคลินิกขอสงวนสิทธิ์ในการ ขอให้ลบภาพหรือเสียงที่เกี่ยวข้อง
- ในกรณีที่มีปัญหา ข้อร้องเรียน หรือข้อพิพาทที่เกิดขึ้นจากการเผยแพร่ภาพหรือเสียงบนอินเทอร์เน็ตหรือสื่อสังคมออนไลน์
ผู้โพสต์จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบผลกระทบที่เกิดขึ้นแต่เพียงผู้เดียว
และทาง J-CLINIC ขอสงวนสิทธิ์ ไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ทั้งสิ้น
ขอขอบคุณทุกท่านสำหรับความเข้าใจและความร่วมมือในการปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (PDPA) เพื่อร่วมกันรักษาความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของทุกคนภายในคลินิกค่ะ
*Update: 26/7/2025