(日本語) 妊娠中の身体メンテナンス。腰痛、背中痛、首肩の凝りは J-CLINIC 理学療法科へ
การรักษาอาการผื่นผิวหนังเรื้อรังด้วยศาสตร์การแพทย์แผนจีน | เจ สหคลินิค
Q: ผมอายุ 25 ปีคะ ฉันเป็นโรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้มาตั้งแต่เด็ก และอาการจะแย่ลงในช่วงฤดูแล้ง ผมสามารถรักษาด้วยสมุนไพรได้ไหมคะ

A: โรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ (Atopic Dermatitis) สามารถใช้ สมุนไพรในการรักษา ได้ โดยเฉพาะเมื่อมองผ่านมุมมองของ แพทย์แผนจีน (TCM) ซึ่งถือว่าโรคนี้เกี่ยวข้องกับความไม่สมดุลของพลังภายในร่างกาย เช่น พลังชี่ (气), ความร้อน, ลม, ความชื้น และการทำงานของอวัยวะภายในบางอย่าง เช่น ปอด ม้าม และตับ ข้อดีของการรักษาด้วยสมุนไพรจีน คือการรักษาที่ต้นเหตุจากภายใน ปรับสมดุลของร่างกาย (ไม่ใช่แค่กดอาการ) ลดการใช้สเตียรอยด์หรือยาทาผิวในระยะยาว

หลักการของแพทย์จีนในการรักษาผิวหนังอักเสบภูมิแพ้
แพทย์จีนจะ วิเคราะห์ตามอาการเฉพาะบุคคล (辩证) แล้วจึงเลือกสมุนไพรที่เหมาะสม เช่น:
สาเหตุที่พบบ่อยตามทฤษฎีแพทย์จีน
- ลมและความร้อนสะสมในผิวหนัง – มีผื่นแดง คัน แสบร้อน
- ความชื้นสะสม – ผื่นมีน้ำเหลือง เหนียว เหนอะหนะ
- เลือดพร่องและลมแห้ง – ผิวแห้ง คันมากโดยเฉพาะกลางคืน (มักเกิดในฤดูแล้ง)
- ตับและไตพร่อง – เป็นๆ หายๆ เรื้อรัง มีแนวโน้มเป็นภูมิแพ้
สมุนไพรจีนที่มักใช้ 荆芥 (Jing Jie), 防风 (Fang Feng), 生地黄 (Sheng Di Huang), 丹皮 (Mu Dan Pi) ,白鲜皮 (Bai Xian Pi),甘草 (Gan Cao) สมุนไพรจะถูกจัดเป็นตำรับ (สูตรยา) โดยแพทย์จีน เพื่อให้เหมาะกับร่างกายคุณ

ซึ่งช่วงฤดูแล้ง ผิวหนังจะแห้ง ทำให้ “ลมแห้ง” และ “เลือดพร่อง” เด่นชัดขึ้น จึงต้องใช้สมุนไพรบำรุงเลือด และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว เช่น: 当归 (Dang Gui) – บำรุงเลือด 川芎 (Chuan Xiong) – กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ลดอาการคัน
การรักษาอาการเหงื่อออกผิดปกติด้วยศาสตร์การแพทย์แผนจีน | เจ สหคลินิค
สวัสดีค่ะ คุณหมอหลิงๆ จากแผนกฝังเข็มและยาจีน เจสหคลินิก นะคะ
วันนี้ฉันจะตอบคำถาม “ผมเป็นโรคเหงื่อออกมาก เหงื่อออกใต้วงแขนเยอะมาก โดยเฉพาะเวลารู้สึกวิตกกังวลหรือประหม่า การฝังเข็มและยาสมุนไพรจีนสามารถรักษาโรคนี้ได้ไหม”นะคะ
แนวคิดของแพทย์จีนเกี่ยวกับ “เหงื่อออกมาก” ในศาสตร์จีน
แนวคิดของแพทย์จีนเกี่ยวกับ “เหงื่อออกมาก” ในศาสตร์จีน เหงื่อเกี่ยวข้องกับ หัวใจ ปอด ม้าม ไต และพลังงานชีวิต (ชี่)

โดยเฉพาะในกรณีที่เหงื่อออกใต้วงแขนมากและเกี่ยวข้องกับความวิตกกังวลหรือความเครียด เป็นภาวะที่พบได้ และสามารถรักษาได้ทั้งการฝังเข็ม และ การใช้สมุนไพรจีน
การรักษาอาการเหงื่อออกผิดปกติด้วยศาสตร์การแพทย์แผนจีน
การฝังเข็ม

ซึ่งอาจส่งผลทางอ้อมต่อการควบคุมเหงื่อ และจุดฝังเข็มที่อาจใช้: Shenmen (HT7), Neiguan (PC6), Sanyinjiao (SP6) และ LI4
สมุนไพรจีน

สูตรยาที่อาจใช้ ได้แก่: Gui Pi Tang (归脾汤) – สำหรับผู้ที่มีภาวะชี่พร่อง+อารมณ์วิตก /Tian Wang Bu Xin Dan (天王补心丹) – ใช้ในผู้ที่มีอาการใจสั่น นอนไม่หลับ วิตกกังวล และเหงื่อออกกลางคืน/Sheng Mai San (生脉散) – เสริมชี่และรักษาภาวะเหงื่อออกมาก
การเลือกจุดฝังเข็มและยาสมุนไพรต้องพิจารณาตามการวินิจฉัยของแพทย์แผนจีน (TCM practitioner) ที่มีประสบการณ์ โดยจะดูอาการโดยรวม

📞For Booking
- Phrom Phong: 097-257-3577
- Thonglor: 084-424-1299
- Ekkamai: 097-245-7863
โรคปวดเส้นประสาทใบหน้ากับการรักษาด้วยแพทย์แผนจีน | เจ สหคลินิค

1. โรคปวดเส้นประสาทใบหน้าคืออะไร?
โรคนี้คืออาการปวดใบหน้าอย่างรุนแรง มักปวดเป็นพัก ๆ


ตามทฤษฎีแพทย์จีน อาการนี้มักเกิดจาก “ลมเย็นกระทบเส้นลมปราณ” หรือ “พลังและเลือดไหลเวียนติดขัด” ทำให้เกิดอาการปวดที่ใบหน้า
2. ฉันเป็นโรคปวดเส้นประสาทใบหน้า สามารถรักษาด้วยการแพทย์แผนจีนได้ไหม?
การรักษาด้วยแพทย์แผนจีน เช่น ฝังเข็มและยาจีน สามารถช่วยลดการอักเสบ ปรับสมดุลพลังงาน (ชี่) และฟื้นฟูเส้นประสาทที่อ่อนแอ จึงช่วยบรรเทาอาการปวดเส้นประสาทใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การรักษาด้วยแพทย์แผนจีนเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ตอบสนองต่อยาแผนปัจจุบัน มีผลข้างเคียงจากยา หรือไม่ต้องการรักษาด้วยวิธีผ่าตัด โดยผู้ป่วยหลายรายสามารถควบคุมอาการให้ดีขึ้นอย่างมาก ช่วยยืดเวลาที่ไม่ต้องพึ่งยา และลดความถี่ของอาการปวดได้อย่างชัดเจน


อย่างไรก็ดี อาการจะหายขาดได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของโรค ในบางรายสามารถฟื้นฟูอาการให้ดีขึ้นจนไม่ต้องใช้ยาแผนปัจจุบันต่อเนื่อง แต่ต้องดูแลสุขภาพ ควบคุมความเครียด และป้องกันปัจจัยกระตุ้นร่วมด้วย และควรได้รับการประเมินทั้งจากแพทย์แผนจีนและแพทย์แผนปัจจุบันร่วมกัน เพื่อกำหนดแนวทางการรักษาที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับร่างกาย
การรักษาด้วยการฝังเข็มมีองค์ประกอบหลักในการรักษาดังนี้:
- การหาและปักจุด Ashi : จุด Ashi คือจุดที่มีอาการเจ็บเฉพาะจุด มักซ่อนอยู่ตามแนวแขนงของเส้นประสาท เช่น แขนง V2 (เส้นประสาทใต้เบ้าตา) จุด Ashi มักซ่อนอยู่ ใต้โหนกแก้ม ,แขนง V3 (เส้นประสาทกรามล่าง) จุด Ashi มักอยู่ บริเวณปลายคางหรือใต้คาง เป็นต้น นอกจากจุดฝังเข็มบนใบหน้าแล้ว ยังมีการรักษาที่แขนและขา โดยคำนึงถึงความสมดุลของร่างกายโดยรวม
- การกระตุ้นด้วยไฟฟ้า : ใช้ ความถี่ที่เหมาะสมกระตุ้นเข็ม ควรตั้งระดับไฟกระตุ้นให้ เบา หรือ รู้สึกเพียงเล็กน้อยหรือเกือบไม่รู้สึก การกระตุ้นด้วยไฟฟ้าในลักษณะนี้พบว่า ช่วยลดความเจ็บปวดได้ดีที่สุด การกระตุ้นบริเวณที่มีอาการปวดมากที่สุดอย่างรุนแรงจะทำให้ร่างกายตึงและไม่ได้ผลการรักษาที่ดีนัก โดยทั่วไปจึงควรกระตุ้นบริเวณใบหน้าเบาๆ
- การเสริมการรักษาด้วยการรมยา : ใช้ร่วมกับการฝังเข็มเพื่อเพิ่มพลังงาน (Qi) และกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ซึ่งช่วยเสริมประสิทธิภาพในการบำบัดอาการปวดได้อีกทางหนึ่ง


3. โรคปวดเส้นประสาทใบหน้า เกิดจากเส้นประสาทถูกกดทับ การรักษาด้วยแพทย์แผนจีนไม่ได้ทำอะไรกับการกดทับนั้นเลย ทำไมจึงรักษาอาการของโรคนี้ได้?
แม้การแพทย์แผนจีนจะไม่ได้ผ่าตัดเพื่อแก้ไขการกดทับโดยตรง แต่สามารถบรรเทาอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น
- ลดการอักเสบและบวมรอบเส้นประสาท ทำให้แรงกดทับลดลง และการไหลเวียนดีขึ้น
- กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและพลังงาน (ชี่) ช่วยให้ระบบประสาทฟื้นตัว และลดความไวต่อความเจ็บปวด
- คลายกล้ามเนื้อรอบจุดที่ถูกกดทับ กล้ามเนื้อที่ตึงหรือหดเกร็งอาจเพิ่มแรงกดที่เส้นประสาท การฝังเข็มหรือประคบช่วยลดจุดนี้ได้

4. ต้องรักษานานแค่ไหนถึงจะดีขึ้น?
ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่เป็น ความรุนแรงของอาการ และสภาพร่างกายโดยรวม โดยทั่วไป มักเริ่มเห็นผลภายในการรักษา ประมาณ 5–10 ครั้งแรก หากทำการรักษา อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ
5. การรักษาด้วยวิธีแพทย์แผนจีนปลอดภัยไหม? มีผลข้างเคียงหรือไม่?
การรักษาด้วยแพทย์แผนจีนมีความปลอดภัยสูง

ผลข้างเคียงที่อาจพบ (พบได้น้อย และมักเป็นเพียงชั่วคราว):
- รอยช้ำเล็กน้อยจากการฝังเข็ม
6. ควรเตรียมตัวอย่างไรก่อนมารักษา?
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- หลีกเลี่ยงลมแรงหรืออากาศเย็นจัดก่อนเข้ารับการรักษา
- รับประทานอาหารอย่างพอเหมาะ (ไม่ควรมารักษาตอนหิวจัดหรืออิ่มมากเกินไป)
- นำประวัติการรักษาเดิม เช่น ผลตรวจ MRI หรือรายชื่อยาที่ใช้อยู่ มาให้แพทย์พิจารณาประกอบ
- หากมีโรคประจำตัวหรือแพ้สมุนไพร ควรแจ้งแพทย์ก่อนเริ่มการรักษา
(日本語) 椎間関節性腰痛の原因を突き止めて治療を組み立てる|J-CLINIC 理学療法科
(日本語) 捻挫のエコー検査と膝の痛みの治療を勉強する|J-CLINIC理学療法科
(日本語) 椎間関節性腰痛の原因分析と運動療法について勉強する|J-CLINIC 理学療法科
1.椎間関節を包む関節包が腰部の屈曲伸展で伸ばされるイメージをテーピングで表現
2.上部腰椎・胸椎の可動性の低下が下部腰椎の負担を増大させる要因になることをバネを使って説明
3.胸椎の後弯の機能低下に対する運動療法
4.5.6.9.上部胸椎伸展を促す運動療法
7.上肢の挙上に伴い腰椎の前弯が強くならないかチェック。前弯が強くなる場合、上肢と肩甲帯の可動性が低下している可能性あり
8.腰椎後弯を維持したまま下肢を挙上させるエクササイズ。腹筋機能を向上させるエクササイズの一つ
10.上部胸椎を伸展させるエクササイズ。上部胸椎伸展可動域低下は椎間関節の負担を増大します
11.ヘルニアの神経根の圧迫について復習
(日本語) 膝痛を抱える方の歩行分析とアキレス腱炎のエコー検査を勉強する|J-CLINIC理学療法科・鍼灸漢方科
(日本語) 側屈と回旋の動きの評価を勉強、腰痛が発症する仕組みを理解する|J-CLINIC 理学療法科
(日本語) 腰痛を引き起こす姿勢不良の特徴を分析する|J-CLINIC理学療法科
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการตรวจเอกซเรย์|J-CLINIC แผนกกายภาพบำบัด
ทางคลินิกขอแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจเอกซเรย์ในรูปแบบคำถามที่พบบ่อยดังนี้ค่ะ

FAQ
Q. การตรวจเอกซเรย์ที่ J-CLINIC นั้น สามารถตรวจวินิจฉัยการบาดเจ็บหรืออาการแบบไหนได้บ้างคะ
Q. การตรวจเอกซเรย์มีค่าใช้จ่ายเท่าไรคะ
Q. สามารถตรวจเอกซเรย์ได้ที่ J-CLINIC สาขาไหนได้บ้างคะ
Q. ในการตรวจเอกซเรย์ สามารถใช้ประกันได้ไหมคะ
Q. ในการตรวจเอกซเรย์มีข้อควรระวังอะไรบ้างไหมคะ
Q. การตรวจเอกซเรย์ที่ J-CLINIC นั้น สามารถตรวจวินิจฉัยการบาดเจ็บหรืออาการแบบไหนได้บ้างคะ
ทางคลินิกจะทำการตรวจเอ็กซ์เรย์ เมื่อคุณมีอาการปวด, ชา, บวม หรือรู้สึกไม่สบายตามข้อต่อและกระดูกบริเวณคอ, ข้อมือ, ไหล่, หลังส่วนล่าง, กระดูกเชิงกราน, ข้อต่อสะโพก, เข่า, ข้อเท้า เป็นต้น
ตัวอย่างของอาการและการบาดเจ็บมีดังต่อไปนี้
-
มีอาการปวดร่วมกับมีอาการชาร้าวลงแขนหรือขา
-
มีอาการปวดบวมบริเวณข้อต่ออย่างเฉียบพลันและเรื้อรัง
-
มีปัญหาในการเคลื่อนไหว เช่น การเดิน การขยับข้อต่อต่างๆ
-
มีอุบัติเหตุเฉียบพลัน เช่น การชนหรือกระแทก,ล้ม
-
ข้อเท้าพลิก
-
การคดของกระดูกสันหลัง
* ทางคลินิกไม่ได้ทำการรักษาโดยการผ่าตัดหรือแก้ไขการเคลื่อนของข้อต่อ หากท่านสงสัยว่าข้อต่ออาจ มีการ เคลื่อน หลุด หรือแตก ร่วมกับได้รับบาดเจ็บของเนื้อเยื่ออ่อน (เช่น ผิวหนัง เนื้อเยื่อไขมัน พังผืด กล้ามเนื้อ เอ็น เส้นเอ็น เส้นประสาท หลอดเลือด) ทางคลินิกแนะนำให้ท่านโปรดไปรับการตรวจที่โรงพยาบาลก่อน เนื่องจากอาการของท่านอาจมีความจำเป็นในการตรวจพิเศษอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น CT scan หรือ MRI ซึ่งทางคลินิกไม่มีเครื่องสำหรับการตรวจนี้
อย่างไรก็ดีทาง J-CLINIC ไม่มีเครื่องมือที่ใช้ตรวจดังกล่าว จึงขอให้ท่านไปรับการตรวจที่โรงพยาบาลค่ะ → กรณีข้อไหล่หลุด, กรณีกระดูกหัก
Q. ผมมีอาการปวดข้อศอก ปกติผมมักจะไปตีกอล์ฟบ่อยๆจึงสงสัยว่าเป็นโรคข้อศอกนักกอล์ฟ (Golfer’s elbow) ในกรณีนี้ต้องตรวจโดยการเอกซเรย์ได้ไหมครับ?
หากสงสัยว่าเป็นโรคข้อศอกนักกอล์ฟ จะต้องตรวจดูการอักเสบที่เนื้อเยื่ออ่อนโดยใช้เครื่องอัลตร้าซาวด์ (Echo) ในกรณีที่มีความเจ็บปวดมาก อาจจะต้องตรวจเอกซเรย์เพื่อตรวจดูการผิดปกติที่กระดูกด้วยค่ะ
Q. การตรวจเอกซเรย์มีค่าใช้จ่ายเท่าไรคะ
650 บาท/ภาพค่ะ
ในบางกรณี เช่น เกิดการบาดเจ็บจากการถูกกระแทกอย่างรุนแรง อาจตรวจทั้งเอกซเรย์และอัลตร้าซาวด์(Echo) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์
ตามด้านล่างคือตัวอย่างค่ารักษาในกรณีที่คนไข้ตรวจเอกซเรย์, ตรวจอัลตร้าซาวด์(Echo) และรับการรักษาทางกายภาพบำบัด (1ตำแหน่ง) ค่ะ
- ค่าตรวจประเมินร่างกายแรกเข้า 500 บาท
- ค่าตรวจโดยแพทย์เวชกรรม (รวมใบรับรองแพทย์และรายงานการรักษาเบื้องต้น) 700 บาท
- ค่าตรวจเอกซเรย์ เริ่มต้น650 บาท*
- ค่าตรวจอัลตร้าซาวด์ (Echo) 500 บาท
- ค่ารักษาทางกายภาพบำบัด (หัตถการและไฟฟ้า) 1,600 บาท
*การส่งตรวจ X-ray จะอยู่ภายใต้การวินิจฉัยของแพทย์ เช่น ส่งตรวจข้อศอก 2 ภาพ คือ ด้านหน้าและด้านข้าง

Q. สามารถตรวจเอกซเรย์ได้ที่ J-CLINIC สาขาไหนได้บ้างคะ
สามารถตรวจเอกซเรย์ได้ที่ J-CLINIC สาขาเอกมัยเท่านั้นค่ะ ขอให้ท่านติดต่อนัดหมายล่วงหน้าก่อนที่จะเข้ามาที่คลินิกค่ะ
- สาขาเอกมัย: 097-245-7863
- Contact form
- Ekkamai Line account


Q. ในการตรวจเอกซเรย์ สามารถใช้ประกันได้ไหมคะ
ทาง J-CLINIC ไม่สามารถตอบได้ว่าประกันของท่านจะครอบคลุมการตรวจเอกซเรย์หรือไม่ ดังนั้นก่อนที่ท่านจะมาที่คลินิก ขอให้ท่านติดต่อสอบถามไปที่บริษัทที่ท่านทำประกันเพื่อให้ทางบริษัทประกันพิจารณาค่ะ
Q. ในการตรวจเอกซเรย์มีข้อควรระวังอะไรบ้างไหมคะ
-
ท่านที่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์หรือสงสัยว่าจะตั้งครรภ์ กรุณาแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนที่จะถ่ายภาพเอกซเรย์
-
การถ่ายภาพในบางตำแหน่ง ก่อนที่จะทำการถ่ายภาพ ท่านอาจจำเป็นต้องถอดเครื่องประดับทุกชิ้นที่เป็นโลหะ รวมถึงแผ่นแปะแก้ปวด, วัสดุที่เป็นพลาสติก, และเสื้อชั้นใน เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งของเหล่านี้เข้ามาอยู่ในภาพถ่าย
-
ขณะกำลังถ่ายภาพ จะไม่สามารถเพิ่มตำแหน่งที่ต้องการถ่ายภาพได้ หากท่านต้องการเพิ่มตำแหน่งถ่ายภาพ กรุณาปรึกษาแพทย์
ท่านที่ต้องการตรวจรักษาที่เจ สหคลินิก กรุณาอ่านที่นี่ค่ะ
(日本語) 膝の触診法を練習!ランナー膝、ジャンパー膝、鵞足炎治療の理解を深める|J-CLINIC理学療法科・鍼灸漢方科
(日本語) 足とお尻の痛みが伴う腰痛について勉強する|J-CLINIC理学療法科
(日本語) 腰痛の原因と基本の手技治療を勉強する|J-CLINICの理学療法科
(日本語) 膝が伸びない、曲げづらい時の治療法について勉強する|J-CLINIC理学療法科
(日本語) 変形性膝関節症の治療について勉強する|J-CLINIC理学療法科
(日本語) X線検査導入に向けて診察と治療の流れをロープレで確認|J-CLINIC理学療法科
การรักษาอาการนอนไม่หลับ (Insomnia)|J-CLINIC
สวัสดีค่ะ หมอผิงจากเจสหคลินิกนะคะ ไม่ว่าจะนอนไม่หลับทั้งคืน หรือตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วนอนหลับต่อไม่ได้ หลับต่อยาก หลับไม่สนิท หลับแล้วตื่นง่าย หรือจะเป็นอาการหลับๆ ตื่นๆ ก็ไม่ควรนิ่งดูดาย หรือมัวแต่นอนนับแกะนับแพะอยู่ หรือคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติ เพราะเมื่อเรานอนไม่หลับ มันย่อมส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตในแต่ละวันของเราเกือบจะทั้งหมด

แต่รู้หรือไม่ว่า การที่เราพึ่งพายานอนหลับเพื่อช่วยให้เรานอนหลับมันแย่ยิ่งกว่าการที่เรานิ่งดูดาย หรือมองเรื่องการนอนไม่หลับเป็นเรื่องปกติเสียอีก นั่นเพราะในตัวยาบางตัวของยานอนหลับบางชนิดมีสารออกฤทธิ์ที่อันตราย ถึงขั้นทำให้สูญเสียความทรงจำหรือร้ายแรงไปถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็มี หากมีการใช้อย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเวลานาน
อาการนอนไม่หลับ กับวิธีการรักษาตามศาสตร์การแพทย์แผนจีน
ศาสตร์การแพทย์แผนจีน
เป็นศาสตร์ในด้านการรักษาที่มีทฤษฎีและหลักการวินิจฉัยรักษาโรคที่แตกต่างจากการแพทย์แผนปัจจุบัน โดยถือว่า มนุษย์มีความเป็นเอกภาพกับธรรมชาติ กล่าวคือ เมื่อฤดูกาล เวลา สถานที่ มีการเปลี่ยนแปลง ก็จะมีผลกระทบต่อร่างกาย จึงส่งผลทำให้เกิดโรคและอาการต่างๆ ขึ้น
สาเหตุและกลไกการเกิดโรคในทางแพทย์จีน
ในมุมมองของแพทย์แผนจีนมักจะสัมพันธ์กับการรับประทานอาหารไม่ถูกสุขลักษณะ อารมณ์แปรปรวน การตรากตรำทำงานหนัก หรือร่างกายอ่อนแอหลังจากเจ็บป่วย เป็นต้น

กลไกการเกิดโรค คือ เสินหัวใจขาดการหล่อเลี้ยง หรือ ถูกรบกวน จิตใจ ไม่สงบ การทำงานของเส้นลมปราณขาดสมดุล หยางมีมากเกินไป อินมีน้อยเกินไป อินหยางขาดสมดุล
*เสิน (神)คือสติ ทำหน้าที่ในการควบคุมการนึกคิด จิตสำนึก
เป็นสิ่งที่มองไม่เห็นแต่สามารถสังเกตได้จากการแสดงออกของสีหน้า ความมีชีวิตชีวา แววตา
*หยาง ลักษณะร่างกายหยาง คล่องแคล่ว พูดเก่ง คิดไว กระวนกระวายง่าย กระฉับกระเฉง ขี้ร้อน ชีพจรเต้นเร็ว อารมณ์เสียง่าย หน้าแดง หายใจแรง หงุดหงิดง่าย ตัวร้อน กินเก่ง ท้องผูกง่าย คอและปากแห้ง เป็นต้น
*อิน ลักษณะร่างกายอิน เชื่องช้า สงบ หายใจเบา ชีพจรเต้นช้า หน้าซีดขาว ขี้หนาว แขนฝ่ามือ ฝ่าเท้า และขาเย็น ทานอาหารได้น้อย ท้องอืดง่าย ระบบย่อยไม่ค่อยดี ไม่ค่อยกระหายน้ำ เป็นต้น

การวินิจฉัยแยกกลุ่มอาการ
แบ่งการวินิจฉัยตามกลุ่มอาการ 5 ประเภท

1. กลุ่มอาการไฟตับกระทบหัวใจ(肝火扰心证)
อาการ : นอนไม่หลับ ฝันมาก ในรายที่อาการรุนแรงอาจถึงขั้นนอนไม่หลับทั้งคืน ใจร้อน โมโหง่าย เวียนศีรษะ ตึงศีรษะ ตาแดง หูอื้อ ปากแห้งหรือปากขม ท้องผูก ลิ้นแดงฝ้าเหลือง ชีพจรตึงเร็ว(弦数)
วิธีรักษา : ปรับการไหลเวียนของชี่ตับ ระบายร้อน สงบจิตใจ
2. กลุ่มอาการเสมหะร้อนกระทบหัวใจ(痰热扰心证)
อาการ : นอนไม่หลับ หงุดหงิด แน่นหน้าอก เรอ สะอึก ปากขม หนักศีรษะ ตาลาย ลิ้นค่อนข้างแดง ฝ้าเหลืองเหนียว ชีพจรลื่นเร็ว(滑数)
วิธีรักษา : สลายเสมหะร้อน ปรับสมดุลกระเพาะอาหาร สงบจิตใจ
3. กลุ่มอาการม้ามหัวใจพร่อง(心脾两虚证)
อาการ : หลับยาก ฝันมาก ตื่นบ่อย ใจสั่น ขี้ลืม อ่อนเพลีย แขนขาอ่อนแรง ทานอาหารน้อยลง ท้องอึด ถ่ายเหลว เวียนศีรษะ ตาลาย ใบหน้าไม่มีชีวิตชีวา ลิ้นซีดฝ้าบาง ชีพจรเล็กไม่มีแรง(细无力)
วิธีรักษา : บำรุงม้ามและหัวใจ บำรุงเลือด สงบจิตใจ
4. กลุ่มอาการหัวใจกับไตทำงานไม่ประสาน (心肾不交证)
อาการ : นอนไม่หลับ หงุดหงิด หลับยาก ใจสั่น ฝันมาก ปวดเมื่อยเอว ตัวร้อน เหงื่ออกตอนนอน ฝ่ามือฝ่าเท้าร้อน กลางอกร้อน เวียนศีรษะ คอแห้ง มีเสียงในหู ฝันเปียก(ผู้ชาย) ประจำเดือนมาไม่ปกติ(ผู้หญิง) ลิ้นแดงฝ้าบาง ชีพจรเล็กเร็ว(细数)
วิธีรักษา : บำรุงอิน ลดความร้อน เชื่อมประสานหัวใจและไต
5. กลุ่มอาการลมปราณหัวใจและถุงน้ำดีพร่อง(心胆气虚证)
อาการ : นอนไม่หลับ ฝันร้าย ตื่นตกใจง่าย ขี้ตกใจ ขี้กลัว ใจสั่น หายใจสั้น เหงื่อออกง่าย อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ลิ้นซีด ชีพจรตึงเล็ก(弦细)
วิธีรักษา : บำรุงลมปราณ ลดอาการตกใจ สงบจิตใจ
ตัวอย่างเคสศึกษาอาการนอนไม่หลับ
ชื่อ : คุณA เพศ : หญิง อายุ : 36 ปี
ประวัติการเจ็บป่วย/ โรคประจำตัว : ผ่าตัดมดลูก ประมาณ 3 ปี , ไมเกรน
คนไข้มาด้วยอาการนอนไม่หลับ ใช้เวลาในการเข้านอนประมาณ 1 ชั่วโมง ตื่นกลางดึกบ่อย และเข้านอนต่อยาก มีฝันเยอะระหว่างคืน ตื่นเช้าไม่สดชื่น ร่วมกับมีอาการปวดศีรษะ ตั้งแต่ท้ายทอยขึ้นมาถึงขมับทั้ง 2 ข้าง เหนื่อยง่าย มีความอยากอาหาร แต่ทานได้น้อย บางครั้งมีแก๊สในท้อง ขับถ่ายปกติ ไม่มีความเครียด
- การตรวจร่างกาย : ลิ้นซีดแดง ฝ้าสีเหลือง ชีพจรเบา ไม่มีแรง
- การวินิจฉัย : นอนไม่หลับ(不寐) กลุ่มอาการม้ามหัวใจพร่อง(心脾两虚)
- วิธีการรักษา : รักษาด้วยการฝังเข็ม ควบคู่กับการทานยาจีน บำรุงม้ามและหัวใจ บำรุงเลือด
- ตำรับยาที่ใช้ : กุยผีทัง(归脾汤) + 龙骨,牡蛎,白芷 เป็นต้น
ผลการรักษา : ในครั้งแรกของการรักษามีเพียงการฝังเข็มเพียงอย่างเดียว ทำให้ยังไม่เห็นผลการรักษาที่เปลี่ยนแปลงมากนัก ในครั้งถัดมา จึงได้ปรับการรักษาโดยการใช้ยาจีนควบคู่กับการฝังเข็ม หลังจากนั้น อาการของคนไข้เริ่มดีขึ้น คือ สามารถเข้านอนโดยใช้เวลาที่สั้นลง ไม่มีตื่นกลางคืน แต่ยังมีอาการฝันเยอะ อาการปวดหัวมีเป็นบางครั้ง บางครั้งมีทานยาแก้ปวดร่วมด้วย การรักษาฝังเข็มควบคู่กับการทานยาจีนร่วม ในช่วงแรกทำการรักษาสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ติดต่อกันประมาณ 6 ครั้ง ทำให้อาการนอนไม่หลับของคนไข้ดีขึ้น ใช้เวลาเข้านอนน้อยลง ไม่มีตื่นกลางดึก ตื่นเช้ามีแรงมากขึ้น


คำแนะนำสำหรับอาการนอนไม่หลับ
- เข้านอนและตื่นนอนเวลาเดิมทุกเช้า ถึงแม้จะเป็นวันหยุดก็ตาม
- หลีกเลี่ยงการงีบในช่วงกลางวันหรืองีบให้น้อยกว่า 1 ชั่วโมง และไม่ควรงีบหลังจากบ่าย 3 โมง
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักช่วงก่อนนอน
- จัดห้องให้มีบรรยากาศเอื้อต่อการนอน เช่น เงียบ มืด มีอุณหภูมิที่เหมาะสม
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่กระตุ้นให้ประสาทตื่นตัวหลังมื้อเที่ยง เช่น กาแฟหรือชา
หากใครที่มีอาการนอนไม่หลับให้ลองดูแลตัวเองตามคำแนะนำด้านบน หากอาการยังไม่ดีขึ้น สามารถเข้ามาปรึกษากับทางแพทย์แผนจีนได้ โดยวิธีการรักษาและระยะเวลา จะขึ้นอยู่กับอาการและดุลยพินิจของแพทย์
Other our blogs
- การรักษาอาการมือเท้าเย็นง่ายๆแบบฉบับแพทย์แผนจีน และแชร์เคสการรักษาอาการมือ-เท้าเย็น
- บทความเต้านมอักเสบอุดตัน หลังหยุดให้นมลูก
- ตัวอย่างกรณีการรักษาในผู้ป่วยวัยทอง
- รักษาอาการปวดบริเวณหลัง โดยเน้นครอบแก้วเพื่อคลายกล้ามเนื้อ ร่วมกับการทำกายภาพ
- การรักษาอาการปวดประจำเดือนด้วยศาสตร์การแพทย์แผนจีน
- การรักษาอาการปวดประจำเดือนด้วยศาสตร์การแพทย์แผนจีน
- การรักษาอาการหูมีเสียงด้วยการฝังเข็มตามแบบฉบับการแพทย์แผนจีน และแชร์เคสการรักษาอาการหูมีเสียง
สามารถทำการนัดหมายได้โดยการส่งไลน์หรือโทรไปที่คลินิกสาขาที่สะดวก โดยจะมีพนักงานชาวไทยจะเป็นผู้ดำเนินการรับเรื่องค่ะ
-
สาขาพร้อมพงษ์:097-257-3577
-
สาขาทองหล่อ:084-424-1299
-
สาขาเอกมัย:097-245-7863



